Friday, March 21, 2008

เดือนที่ 0-1

พัฒนาการด้านร่างกาย

ปันทำ Moro Reflex บ่อยมากๆ โดยเฉพาะเวลาตกใจหรือร้องไห้ ปันๆ มักจะตกใจเวลาจะอาบน้ำ ปันตกใจแม่ก็ตกใจแฮะ เดือนนี้คอยังไม่แข็ง แต่ปันเริ่มขยับตัวไปมาเวลาที่อุ้ม และเวลาแม่อุ้มพาดบ่า ก็ชอบแอบหม่ำๆ เสื้อแม่ (อร่อยเหรอจ๊ะ) เวลาจับเรอก็หม่ำมือแม่ ตอนวางนอนหงายจะหันซ้ายหันขวาได้คล่องแล้ว เงยหน้าได้ ก้มหน้าได้ คว้าของก็ได้ และปันๆ ชอบให้คนอุ้ม แต่ต้องอุ้มอย่างมั่นคงนะ ม่ายงั้นจะร้องแฮ้ๆ บ้านแตกเลย เสียงร้องของปันๆ ตอนนี้เริ่ิมดังขึ้น ปันยิ้ม occasionally เวลายิ้มนี้นะ หล่อที่สุดเรยย ปันๆ แขนยาว ขายาว แระก็นิ้วยาว โตขึ้น แม่จะให้ train เป็นนักบาส NBA นะ เอ... แต่ปันๆ ชอบเตะๆๆๆๆ เป็นชีวิตจิตใจ จะชอบเล่นบาสหรือเปล่าน๊า

พัฒนาการด้านภาษา

ร้องอือๆ อาๆ แล้วก็ร้องไห้เสียงดัีง แฮ้ๆๆๆ มีน้ำตาไหลพรากๆ ด้วย หน้าแดงแป๊ดเลย

พัฒนาการด้านสังคม

ปันยิ้มแล้ว แต่ถึงแม้จะรู้ว่ายิ้มอย่างเป็นไปเอง ไม่ได้ตั้งใจยิ้มให้แม่ก็เหอะ พ่อกะแม่ก็แอบปลื้มมมมสุดๆ นั่นแหละ ปันชอบมองหน้าคนนั้นคนนี้ เวลาเข้ามาพูดด้วย จำหน้าแม่ได้ยังเอ่ย ตอนแม่ให้นมก็ำไซ้หาหัวนมได้เองแล้ว และมีท่างับขวับๆ ที่แม่เห็นแม่ก็ให้หมดใจเลยลูก

แบบแผนชีวิตประจำวัน

ปันยังกินนมทุกๆ 2-3 ชม. อึวันละหลายๆ ครั้ง แต่ว่านอนค่อนข้างน้อย นอนแ็ป็บเดียวก็ตื่นแล้ว อยากให้อุ้ม คุณหมอบอกว่าถ้าร้องให้อุ้ม ก็อุ้มปันๆ เลย ไม่ต้องกลัวติดมือ เพราะปันๆ ยังเล็กนิดเดียว ย่อมมีความสุขที่จะได้รับความอบอุ่น เอาไว้โตก่อนค่อยสอนก็ยังไม่สายเนอะ




แอบถ่ายตอนปันๆ หลับ ม่ายรู้ฝันถึงอะไรน๊า

Sunday, March 16, 2008

1st Week

วันที่ปันๆ กลับมาบ้าน เราเอาของขวัญที่ทุกคนให้มาโพสต์ถ่ายรูปกับปันๆ ในเตียง (เลียนแบบที่อากงปันทำให้พ่อช้าง) แล้วก็มีปฏิทินจีนวันเกิดที่คุณย่าหามาให้จ้ะ กองของขวัญใหญ่กว่าปัน 10 เท่าเห็นจะได้เนอะ

ช่วงแรกๆ นี้ ปันร้องไห้ แว้ๆ แว้ๆ เสียงเบ๊าเบา พ่อบอกว่าเรามีมารยาทดีมาก แล้วก็เป็นเด็กอารมณ์ดีไม่ค่อยงอแงเลย จะร้องเฉพาะตอนที่จะกินนม สัปดาห์แรกนี้ขอบอกว่าแม่เหนื่อยมาาากก เพราะแทบไม่ได้นอน เนื่องจากต้องให้นมทุกๆ 2-3 ชม. ทั้งกลางวันกลางคืน ปันๆ ชอบดูดนมแม่นาาานมาก เป็น ชม. เลย จนบางทีแม่นับตามตารางไม่ถูก พ่อลางานมาช่วยเลี้ยงลูก โดยเฉพาะช่วยอาบน้ำให้ ซึ่งขณะนี้ เป็นหน้าที่ของพ่ออย่างถาวรไปซะแล้น

ความรู้สีกและอารมณ์หลากหลายประดังประเดเข้ามา เครียดที่หนึ่ง ปันได้นมพอหรือเปล่าหนา และจะโกรธมากถ้าใครพูดว่าปันกินนมไม่พอ หรือปันหิวแล้วไม่มีนมกิน เครียดที่สองปันจะดูดนมนานขนาดนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ไม่เห็นใช่ข้างละ 15 นาทีอย่างที่ตำราบอก เครียดที่สาม นมมันคัดๆ เปื่อยๆ ยังไงอยู่ ไม่สบายเนื้อสบายตัว เครียดที่สี่ ยังเจ็บแผลผ่าตัดอยู่นะไม่กล้านั่งกับพื้นกลัวลุกไม่ได้ (นี่คือเหตุผลที่ยังไม่อาบน้ำให้ปันๆ เอง) มองซ้ายมองขวา หาเรื่องพ่อตลอด แต่พ่อใจเย้นเย็น เข้าอกเข้าใจสุดๆ น่ารักที่ซู้ด คอยให้กำลังใจตลอดเลย

หลังสองวันกลับไปหาหมอสุธีราพร้อมคำถามเต็มหน้ากระดาษ หมอคงกะไว้แล้ว ไปถึงเลยอธิบายๆๆๆ ซะแม่อึ้ง process ข้อมูลเกือบไม่ทัน แต่ตอบคำถามหลักๆ ที่แม่มีเกือบหมด เหลือแต่จิ๊บๆ จ้อยๆ ที่ชอบคือเรื่องให้สังเกตพุงลูก ถ้าพุงยุบ คือเปิดพุงแล้วเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสแปลว่านมหมดท้อง หิวแล้วแม่ แต่ถ้าเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูแปลว่ายังอิ่มอยู่ฮัีบ แล้วยังสอนวิธีอุ้มลูกมือเดียวพาดบ่ากับท่าถอนสายบัว ซึ่งโดนใจพ่อมาากก

ปลายๆ อาทิตย์ พ่อเริ่มแผนปลีกตัว โดยไม่ตื่นมาดูลูกตอนดึกแล้ว อ้างว่าเพื่อให้แม่ปรับตัว เพราะในที่สุดแม่ต้องเป็นคนดูลูกตอนกลางคืน ซึ่งเมื่อเริ่มแผนแล้วก็กลายเป็นปฏิบัติการถาวรไปซะเรยย

แม่เริ่มอาบน้ำให้ลูกแล้วด้วย รู้สึกพ่อจะถ่าย vdo ไว้ สรุปว่าสัปดาห์แรกแผน delegate งานของพ่อเสร็จสมบูรณ์ทุกประการฮ่ะ


Thursday, March 13, 2008

วันแรกๆ ที่ รพ.

9-12 มี.ค. 51

4 วันที่รพ.ผ่านไปไวไม่รู้เรื่อง แม่จำได้ว่าพอคลอดปันๆ แล้ว พยาบาลให้แม่สังเกตอาการประมาณ ชม. นึงจึงพากลับห้อง ไปถึงมีญาติๆ เต็มไปหมด แล้วสักพักป้าเมย์ก็พาปันๆ มาหาแม่ ปันๆ ห่อผ้ามาตัวแด๊งแดง แล้วก็ตัวเล็กกาติ๊ดเดียวเองลูก ป้าเมย์ให้มาดูดนม แม่ก็อุ้ยๆ อ้ายๆ ยังรู้สึิกตัวหนักอยู่เลย แต่ยังไม่รู้สึิกเจ็บอะไร ปันๆ ดูดนมท่านอน ตั้งใจดูดมากเรยย ทำให้แม่มีกำลังใจขึ้นมากกับการให้นมแม่ให้สำเร็จ

ตลอดที่อยู่ รพ. ทุกอย่างค่อนข้างเป็นตามตาราง ปันๆ มาให้นมทุกๆ 2-3 ชม. ทั้งกลางวันกลางคืน แม่แทบไม่ได้นอนเลย เนื้อย เหนื่อย แต่ก็ทนจ้ะ วันที่ 2-3 เป็นวันที่ความเครียดเริ่มพุ่งขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเริ่มเจ็บแผล แม่ซัดยาแก้ปวดตลอดเวลา ตามคำแนะนำของป้านีย์ คือไม่ต้องรอให้ปวด พอใกล้ถึงเวลาที่พยาบาลบอกว่าจะปวด ก็กินยาล่วงหน้าไปเลย ช่วยได้มาก โดยเฉพาะบรรเทาอาการปอดแหกถาวรของแม่ ฮ่าฮ่า พ่อเข้าใจดี ก็หนับหนุนเต็มที่เรยย

ความเครียดที่สอง ครือ ปันๆ ดูดนมไม่รู้ได้นมหรือเปล่า เพราะดูลูกเริ่มหงุดหงิด เหมือนกินนมไม่ได้ดั่งใจ แล้วบางทีก็หลับไปไม่ดูดซะงั้น ก็กรั๊วกรัววว่าปันๆ จะไม่ได้นม ตามฟอร์มแม่ก็เริ่มบอกพ่อว่าให้ตั้ง cutoff time ไว้นะ ถ้าถึงเวลาแล้วยังไม่มีน้ำนมอีก ก็จะเตรียมนมวัวเลย (ใจเสาะจริงๆ เรา) แต่พ่อเป็นแม่ทัพเอก บอกให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบเปลี่ยนกลยุทธ์ ยังไม่ถึงเวลา ดีนะคะ ที่สามีอิฉันเป็นผู้หนักแน่นแบบนี้ ไม่ง้าน ปันเอ๋ย คงไม่ได้ซบอกแม่อยู่อย่างนี้หรอกฮ้า

ความเครียดที่สาม ไม่กล้าบอกใครหรอกตอนนั้น ครือว่า อิช้านปอดแหกอีกไม่กล้าอุ้มลูก ก็ so delicate ซะขนาดน้าน ตัวเล็กกะจิ๊ดเดียวเอง คอก็ง่อนแง่น กลัวทำตก กลัวเจ็บ กลัวไปซะหมด (บอกแล้วว่าปอดแม่ไม่ค่อยแข็งแรง) แต่ก็อีก พ่อช่วยเรียกความมั่นใจกลับมาเกินร้อย ก็ดูๆ ไปแล้ว เฮียช้างแกอุ้มได้ ทำไมอั๊วจาอุ้มม่ายล่ายว๊า ประมาณวันที่สาม แม่ก็เรยฮึดสู้ อุ้มแล้วอุ้มอีกเลยวุ้ย

พี่อุ๊มาอยู่กับเราด้วย สร้างความคุ้นเคยกับปันๆ แระก็ทะมัดทะแมงใช้ได้ๆ

วันที่สองที่อยู่ รพ. เค้าให้ไปฝึกอาบน้ำลูก ฮี่ฮี่ ก็เล่นนัด 8 โมงเช้า มีหรือจะตื่นทัน ^o^! เอาน่า วันแรกปรับตัวๆ จนวันที่สามถึงได้ไปอาบ แต่ก็ยังไม่ได้อาบจริงหรอก ไปถ่าย VDO ที่พี่พยาบาลอาบให้ก่อน จนวันที่สี่สิ ถึงได้อาบเอง แต่ใครจะหัดอาบให้ร่า ถ้าไม่ใช่ พ่อช้าง งัยจ๊ะ มีพ่อนี่ดีนะ เอาไว้เป็นทัพหน้า จนกลับบ้านพ่อก็ยังอาบให้อยู่อีกตั้งหลายวันแน่ะ

Up รูปมาให้ดูว่ามีใครมาเยี่ยมปันๆ บ้าง นี่เพียงแค่ส่วนนึงนะลูก ที่สงกะสัยครือแม่จำได้ว่าอี๊เจี๊ยบกับกู๋จูล่งมา 2 รอบนิ แต่ไม่ยักกะมีซักรูปเรยย เอาเป็นว่าไม่มีรูปถ่ายมายัน แต่อยู่ในฟามทรงจำป๋มระกันน๊า แม่อ้วนๆ อายคนจังเยยอ่า พ่อบอกไม่ต้องคิดมาก เพราะเค้ามาเยี่ยมปันๆ กัน (ประมาณว่าอย่าสำมะคันตัวผิด) ทุกคนชมจังว่าปันๆ ผมเยอะมาก อันนี้สุดแสนจะภูมิใจจัง สงสัยปันๆ จะเหมียนพ่อ แต่ย่อมหล่อกว่่าเป็นทำมะดา

Sunday, March 9, 2008

วันรักแรกพบ : : love at first sight

Daddy's Tale

9 มี.ค. 51 - พ่อกับแม่มาเตรียมตัวที่ รพ. ตั้งแต่ 8:30 น. มาถึง รพ. ได้ห้องที่ชั้น 6 เป็นห้องใหญ่มาก แต่ว่าดูทึบๆ พ่อเลยขอเปลี่ยนเป็นห้องชั้น 5 ใกล้ๆ เนอสเซอรี่ จะได้มาหาลูกง่ายๆ แต่ห้องในโซน A (ใกล้เนอสเซอรี่) เต็ม เลยต้องไปอยู่โซน B ซึ่งไกลไปนิด ตอนประมาณ 10:30 น. พยาบาลมาเตรียมตัวคุณแม่ ให้สวน ให้น้ำเกลือ ตอน 11:20 น. เค้าก็พาแม่ไปที่ห้องผ่าตัด คุณหมอบล็อกหลังแม่ แล้วก็เริ่มผ่า พ่อแม่และหมอทุกคนลุ้นกันสุดๆ เพราะหัวลูกค่อนข้างจะใหญ่มาก ตอนคลอดออกมานะ แม่ร้องไห้ดีใจใหญ่เลย พ่อก็ยิ้มไม่ยอมหุบ จนโดนป้าๆ อาๆ แซวว่าเห่อลูกกันใหญ่ พอเกิดเค้าก็พาปันไปไว้ในตู้ปรับอุณหภูมิ 2-3 ชม. ก่อนจะมาให้ดื่มนมแม่ครั้งแรก ตอนที่ปันปรับอุณหภูมิ แม่เค้าก็ไปอยู่ในห้องสังเกตอาการ กว่าจะได้เจอกับลูกก็ราวๆ 16:00 น. แม่ดีใจมากๆ ญาติๆ อยู่กันเต็มห้องเลย มีย่าสิน อาโผ่ ป้านีย์ ลุงเสก พี่ก้อง ป้าเกด อากบ ลุงแบงค์ ป้าเจนนี่ พี่แมนต้า ป้าเจี๊ยบ ลุงจูล่ง ทุกคนบอกว่าปันน่ารัก ตัวใหญ่ แล้วก็หน้าเหมือนกับ พ่อ-แม่ผสมกันเลย ตอนดึกๆ ห้องที่โซน A ว่าง เลยย้ายกันมาอยู่ที่ห้อง เป็นห้อง Ambassador เหมือนกับที่โซน B แต่ใกล้กับเนอสเซอรี่มากๆ พ่อ-แม่จะได้ไปหาปันบ่อยๆ

10 มี.ค. 51 - ลูกมาทานน้ำนมตอนตี 1 กับตี 5 ดูดนมแม่ครั้งละ 1 ชม. สลับข้างละครึ่งชม. ตอนเช้าพยาบาลพาลูกมาด้วยทรงผมที่เท่มาก


Mommy's Tale

9 มี.ค. 51 - ปันค๊าบ วันน้ีเป็นวันที่แม่ตื่นเต้นมากเลยลูก นอกจากเป็นเพราะวันที่เรา พ่อ-แม่-ลูก จะได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกแล้ว ครั้งนี้จะเป็นการเข้า รพ. ครั้งแรกของแม่ที่ต้องมาผ่าตัดและนอนรพ. คุณหมอให้แม่งดน้ำงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 8 แม่พยายามนอนให้หลับเพราะกลัวว่าถ้าอดนอนแล้วมาผ่าตัดจะทำให้เพลียมาก ตอนเช้าเรามาที่ รพ. แม่กับคุณย่าแวะไหว้พระภูมิเจ้าที่ของ รพ. ขอให้ทั้งปันและแม่ปลอดภัย ให้ปันมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นเด็กที่น่ารัก เป็นบุตรที่ดี พอไป check-in ที่แผนกสูติฯ ก็มีพยาบาลพาไปที่ห้องพักชั้น 6 ห้องใหญ่มากแต่แม่ว่ามันดูทึมๆ แล้วก็ไกลจากเนอสเซอรี่มากๆ เลย พ่อ-แม่เลยขอย้ายมาอยู่ที่ชั้น 5 แทน ระหว่างรอเวลาที่จะผ่าตัด แม่ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว พูดอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง พยายามไม่คิดอะไรมาก พยาบาลเข้ามาสวนให้ แม่เข้าห้องน้ำแล้วออกมาให้น้ำเกลือ รู้สึกเจ็บเล็กน้อยตอนเค้าฉีดต่อสายน้ำเกลือให้ที่หลังมือ หลังจากนั้นแม่ก็นอนรอ มีพี่พยาบาลจากห้องคลอดเข้ามาอธิบายขั้นตอนให้ฟัง แต่แม่ฟังไม่รู้เรื่องเท่าไหร่แล้วล่ะ ใกล้เวลา เค้ามาเข็นเตียงแม่ลงไป ใจเต้นตึกตักๆ พ่อลงไปด้วย อยู่กับแม่ตลอด ทำให้สบายใจขึ้นมาก เค้าพาแม่ไปรอหน้าห้องผ่าตัด ปรากฏว่าวันนี้มีคิวผ่าตัดหลาย case แม่ต้องนอนรออยู่นานหลายนาที ยิ่งรอนานยิ่งตื่นเต้นบอกไม่ถูก และแล้วก็ถึงคิวจนได้ เค้าเข็นแม่เข้าไป เจอกับหมอที่บล็อกหลังคนแรก หมอใจดี แนะนำขั้นตอน แล้วแม่ก็ถามเรื่องผ่าไส้ติ่งกับขลิบ ซึ่งพ่อเค้าก็คงถามหมอบุญชัยอีกครั้งนึง ตอนที่บล็อกหลังพ่อยังอยู่ข้างนอก ยังเข้ามาไม่ได้ แม่อยู่คนเดียว ก็ต้องใจสู้ หมอให้ทำอะไรแม่ร่วมมืออย่างดีมาก จำได้ว่าหมอบอกให้งอตัวเยอะๆ มากๆ เพราะต้องฉีดยาเข้าระหว่างข้อต่อของกระดูกสันหลัง แม่งอสุดตัวเท่าทีพุงอ้วนๆ ของแม่จะทนได้ พอหมอฉีดปุ๊บแม่กลับไม่รู้สึกเจ็บเลย แล้วเค้าก็รีบจับแม่นอนหงาย แม่เริ่มรู้สึกชา จากขาขึ้นมาถึงหน้าอก หลังจากนั้นแม่ไม่เจ็บอีกเลยตลอดการผ่าตัดจ้ะ สักพัก หมอบุญชัยกับหมอผู้ช่วยเข้ามาทายาเย็นๆ ที่ท้อง แล้วพ่อก็มา สักพักหมอบอกว่าจะรู้สึกมือหมอกดที่ท้อง แม่รู้สึกโดนกดเหมือนหมอพยายามดันปันๆ ออกมา เสียงพ่อร้องว่า "เห็นแล้วๆ ออกมาแล้วๆ" แล้วหมอก็บอกว่า "หัวโตแฮะ" จู่ๆ ก็มีเสียงดัง "แว้" พ่อบอกว่า "ออกมาแล้วๆ" แม่น้ำตาร่วงกราวตอนได้ยินเสียงปันๆ ครั้งแรก แล้วหมอสุธีราก็มารับปันๆ ไปทำความสะอาด แม่เห็นแวบๆ เลยขอพยาบาลใส่แว่นตา แล้วหมอก็อุ้มปันๆ มาใกล้ๆ แม่ แม่ได้เอาแก้มแนบแก้มปันๆ ด้วย ปันยังเปียกๆ อยู่เลย ตัวเล็กนิดเดียว สีเทาๆ แต่ก็น่ารักที่สุดในโลกเลย รักปันมากเลยจ้ะ เราถ่ายรูปกันครั้งแรก พ่อ-แม่-ลูก :D