Tuesday, November 25, 2008

ดอกไม้ให้พ่อ สุขสันต์วันเกิดค้าบ

ปันๆ ให้ของขวัญวันเกิดอีกแล้ว คราวที่แล้วพลิกคว่ำได้เป็นของขวัญให้แม่ ผ่านมาจนถึงวันเกิดพ่อ 25 พ.ย. ปีนี้ มอบดอกไม้ให้พ่อ สุขสันต์วันเกิด ดอกไม้ปันเป็นฟันล่างด้านขวาค้าบ โผล่พ้นเหงือกขึ้นมาทันแฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูแด๊ดดี้พอดีเรยย ฟันซี่ใหญ่เหมียนพ่อเลยจ้ะ อีกไม่นานข้างซ้ายก็คงจะโผล่ออกมาคู่กันๆ
เข้าใจตั้งเวลาจังนะจ๊ะ



วันเกิดพ่อปีนี้ มีจัดเค้กกะไอศกรีมเซ่อไพรส์ แม่ก็มีผลพลอยได้ แอบแฮ็บกินติมกะบราวนี่ด้วย พ่อดีใจใหญ่ ปากก็บอกว่าไม่ต้องมีอะไรพิเศษให้หรอก แต่พอเค้าจัดให้ ตะเองก็ดีใจแหละน๊า ตอนปิดไฟ เป่าเทียน ปันๆ ตื่นเต้นหย่าย เอาไว้วันเกิดปันๆ บ้างเนาะ แม่จะช่วยเป่าเค้กบื๋อๆ นะจ๊ะ

Sunday, November 23, 2008

เขาดินวนาฯ

ด้วยแรงบันดาลใจจากการเที่ยวชมอะควาเรี่ยม อะฮั้นก็ได้ไอเดียโดยคร่าวว่าปันๆ ท่าจะชอบศึกษาเกี่ยวกับสัตว์โลก บวกกับความชอบนกเป็นทุน (พี่อุ๊พาไปดูนกที่สนามหญ้าทุกวี่วัน จนปันๆ ร้องเป็นภาษานกได้ว่า เจ๊เจ่ aka จิ๊บๆ พร้อมกับชี้และมองฟ้า) พ่อและแม่ที่ดีอย่างเราจึงวางแผนการทัศนศึกษาที่เขาดินวนาฯ ให้แก่เด็กชายตัวน้อย และไม่ลืมพกพี่อุ๊ไปด้วย ซึ่งสำคัญกับความบันเทิงของพ่อและแม่เป็นอย่างยิ่ง


ที่เขาดินประทับใจกว่าที่คิด เพราะพื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้ได้เลย แถมมีสวนนกที่แนะนำว่าต้องไปเดินให้ได้ เพราะได้ใกล้ชิดกับนกนานาพันธุ์ หน้าตาแปลกๆ มากมาย ขนาดที่ว่าเดินแหงนดูนกไป กลัวติดหวัดนกกันไป ขอเตือนให้ใส่หมวกใบเก่าๆ พร้อมทิ้ง เพราะอาจเจอบอมบ์ได้ถ้านกไม่ถูกใจ แต่คราวนี้พ่อแม่ปันและพี่อุ๊รอดกันทั้งสี่คน ที่ไม่ค่อยประทับใจเลยก็คือสัตว์ที่ถูกขังในกรงเล็กๆ พวกสัตว์หากินกลางคืน ดูแล้วเศร้าอย่าบอกใคร ตรงส่วนที่เป็นงูและสัตว์เลื้อยคลานก็ทำดีนะ แต่แม่ไม่ค่อยชอบดูงูสักเท่าไหร่ สังเกตงูอนาคอนดาจะป็อบปูล่ากว่าพันธุ์อื่นๆ เชียว

กว่าจะเดินรอบเขาดินเหนื่อยใช้ได้ คุ้มจริงค่าเข้าแค่ 50 บาทต่อคน :-)



Sunday, November 16, 2008

เที่ยวอะควาเรี่ยม ที่พารากอน

พาปันไปเที่ยวอะควาเรี่ยมที่สยามพารากอนมาค่ะ หลังจากที่รบเร้ากับพ่ออยู่นาน ในที่สุดพ่อก็ตกลงว่าควรที่จะพาไปได้แล้วซักกะที แม่ปิ๊งไอเดียนี้ก็เพราะว่าพาปันไปดูบ่อปลาหน้าบ้าน ให้อาหารปลาแล้วปันตื่นเต้นใหญ่เลย ทำเสียง อือ อือ อือ หลังๆ นี้ปันก็ชอบออกไปเดินเล่นที่สนามหญ้าอยู่แล้ว ดูนกบิน ดูดอกไม้ ดูกระรอก ดูผีเสื้อ พอเช้ามา เอาละ ร้องทวงจะออกไปข้างนอก ถ้าพี่อุ๊บอก "เปิดประตูๆ" โอ้โห จะ alert ยมาก มองไปที่ประตูทำท่าโผจะไปๆ พาไปที่ประตูก็เอามือจับลูกบิดทันที ประมาณว่า อีกไม่นานผมจะเปิดออกไปเองได้ละ พอบอกว่า "นกๆ" ปันก็จะมองดูฟ้า บอก "ดอกไม้" ก็จะมองไปที่ต้นไม้ "ไปเที่ยวๆ" ก็จะเตะขาดีอกดีใจ ... เด๋วนี้รู้มากจริงๆ ลูกแม่
พาปันนั่งรถใส่คาร์๋ซีทไว้ เด๋วนี้ชอบเวลาเอาขึ้นรถจะดูนู่นดูนี่จนเพลินหลับไป แต่ถ้านานเกินไปก็มีเบื่อโวยวายได้เหมือนกันค้าบ วันนั้นกว่าจะถึงพารากอนใช้เวลานานพอดู เพราะพ่อเลี้ยวรถผิดพาไปติดแยกราชประสงค์อยู่เป็นนาน แต่ก็ถึงจนได้ ยังดีที่พารากอนมี valet parking ก็เลยไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถอีก
ค่า เข้าชมอะควาเรียม ราคาปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 350 บาท เจ้าหน้าที่แนะนำว่าเราไม่ต้องไปดูเรือท้องกระจกก็ได้เพราะลงเรือค่อนข้างจะ แออัด เด็กเล็กอาจจะลำบาก ก่อนเข้าพ่อกะปันถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้านหน้าตรง photo stand ที่เค้าจัดไว้ให้
วันนี้เราตัดสินใจใช้เป้จิงโจ้อุ้มปัน เพราะดูแล้วน่าจะคล่องตัวกว่าใช้รถเข็น ประกอบกับเราเดินในห้องแอร์ พ่อ (จิงโจ้) ก็คงจะไม่เหนื่อยมาก เริ่มต้นด้วยการแวะชมปลาแปลกๆ ที่เค้าจัดไว้ในตู้ แม่จำไม่ได้หรอกว่ามันมีปลาอะไรกันบ้าง แต่ที่แน่ๆ ปันชอบมาก ดูปลาว่ายไปมาใหญ่เลย แถมเอามือไปแปะๆ กระจก จะหยิบปลาออกมาให้ได้ แค่ 2-3 ตู้แรก เห็นปันสนใจมากขนาดนี้ แม่ว่าก็คุ้มแล้ว



พอเดินอะควาเรี่ยมจบ ก็มาหม่ำๆ ข้าวที่ศูนย์อาหารนั่นแหละ นัดกะอาโผ่กะป้านุช เจอกันแป๊บนึง พอให้อาโผ่หายคิดถึงปันๆ ก็อาโผ่โดนหมากัด เลยต้องไปทำแผล ฉีดยา ไม่ได้มาหาปันๆ เป็นอาทิตย์เลยคิดถึงน่ะซี่ อ้อ... แม่พาปันๆ ไปซูเปอร์ฯ ไปซื้อเนื้อปลา เนื้อหมู เนื้อไก่ สำหรับทำอาหารของปันด้วย ปรากฎว่าปันเห็นปลานอนเรียงรายแช่น้ำแข็งอยู่ในซูเปอร์ฯ งงใหญ่เลย อ้าว... เมื่อกี้ยังว่ายๆ อยู่ ทำไมมานอนตรงนี้ตั้งเยอะแยะ จะเอามือไปจับให้ได้ แม่ต้องพาหนีไปที่อื่น เหอ เหอ ในใจคงคิดงงๆ แฮะ มัีนยังไงกันละเนี่ย อุ้มๆ เลือกปลา ปันก็ง่วงและก็งอแง เผลอแป๊บเดียวหลับโงกเงกไปซะงั้น วันนี้กว่าจะถึงบ้านมืดพอดีจ้า

Monday, November 3, 2008

A little crawler..

วันนี้ ปันคลานได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ที่ผ่านมาคลานๆ บ้าง คืบๆ บ้าง วันที่ 3 พ.ย. นี้แหละ แม่พูดได้เต็มปากว่าปันคลานได้แล้วค้าบ ท่าทางปันก็คงดีใจเหมียนกัน เพราะเห็นคลานใหญ่ไม่หยุดเรยย ฮิฮิ

Saturday, November 1, 2008

ดิฉันรักเซ็นทรัลชิดลม

เป็นห้างที่ประทับใจตั้งแต่เล็กจนโตเป็นแม่คน...
ด้วยเมื่อวันก่อนได้ลองไปใช้บริการห้องให้นมลูกที่ชั้น 6 เคยได้ยินมาตั้งนานแล้วว่ามี แต่ยังไม่เคยมีโอกาสแวะไป ก็คิดว่าคงเป็นห้องๆ นึง มีโซฟา มีโต๊ะรับแขก เหมือนห้องกลางที่พรีเมียร์เลานจ์ อะไรประมาณนี้
แต่พอเข้าไปจริงๆ เค้ามีที่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ มีอ่างล้างมือที่มีน้ำร้อนน้ำเย็น แล้วก็ยังมีเครื่องฟอกอากาศให้อีกเครื่องนึง
ช่างเข้าอกเข้าใจคนเป็นแม่อย่างเราจริงๆ

รักเซ็นทรัลชิดลมจัง

Saturday, October 25, 2008

พัฒนาการเดือนที่ 7-8

ปันๆ เริ่มออกอาการติดแม่อย่างเห็นได้ชัด (Separation Anxiety) และมีอาการกลัวคนแปลกหน้า โดยเฉพาะถ้าคนแปลกหน้าแล้วยังมาทำเสียงดังเนี่ยจะ Hurt มาก ร้องไห้จ้าา พ่อกับแม่ก็กลัวว่าจะเข้ากับคนยากเหมือนในตำราบอกรึป่าว ก็เอาไปทดลองเรียนจิมโบรีมาคลาสนึง โอ้โห... ดีว่าึคลาสแรกไม่เสียตัง ก็ปันๆ เล่นเกาะพ่อเกาะแม่เป็นชะนี ใครมาพูดด้วยก็ร้อง ใครส่งเสียงดังก็ร้อง หึหึ เล่นเอาเบบี๋คลาสเมทของหนูงงๆๆ (เป็นรายว๊าา) เอาเถอะ พ่อกะแม่ไม่เครียดหรอก We go at your pace. แต่ก็มีแอบถามหมอสุธีราว่าเป็นไรอ๊ะป่าว หมอว่าเป็นงี้แหละ ให้เอารูปญาติๆ ชี้ให้ดูบ่อยๆ ไม่ต้องเอาไปจิมโบรีให้เสี่ยงติดเชื้อโรค เด๋วโตก็หายเนาะ ตอนนี้ให้เล่นกะกระจกไปก่อนให้คุ้นชินกับการเล่นกับเบบี๋อีกคน (หลอกลูกนี่หน่า โตจะโกรธกันมั้ยเนี่ย) อาโผ่ให้เรียกว่า “ถุ่งเหงี่ยนๆ” แปลเป็นภาษาปะกิดเก๋ๆ ว่า “Peer” ทุกเช้ามาแม่เลยฝึกให้ยิ้มหวานให้ตะเองในกระจกทีนึง

ยังคงไม่ชอบการสระผมเอามากๆ ร้องแว้กทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ (แม่เห็นบางทีก็ลืม เล่นกับพี่อุ๊เพลินหรือไม่ก็ดูนู่นนี่ พอแม่เข้าไปทัก โอ้โห ปันเก่งจังสระผมไม่ร้องไห้เลยนึกขึ้นได้ เออจริงว่ะ สระผมอยู่นี่หว่า แว้กๆๆๆๆ – หมายฟามว่าไงฟะ!) เด๋วนี้ไม่ค่อยจะอยู่เฉยให้เปลี่ยนเพอส์ หรือเปลี่ยนเสื้อผ้า จะคืบไปนู่นไปนี่ ต้องเอาของ (เล่น) ให้เล่น เช่น ฝากระป๋องน้ำ วันก่อนปรากฏว่าปันคว่ำ แล้วเอาฝาวางไว้ที่พื้นด้านหน้า เล่นๆๆๆ แล้วคิดไงไม่รู้ เอาหน้าจิ้มลงไป คงแรงพอสมควร เพราะร้องจ๊าก ปากเจ่อแล้วก็แตกมีเลือดไหลนิดนึงด้วย แม่ไม่อยู่บ้านกลับมาเห็นหน้าจ๋อยๆ โถๆ ต่อไปนี้อดเล่นฝากระป๋องน้ำแล้วจ้า

ปันยังคลานไม่ได้ คืบได้คล่องแล้ว แต่ไม่ค่อยชอบคืบ (มันคงเจ็บอ่ะเนอะ) เวลาให้คืบหยิบของเล่นจะยอมทำ 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นจะขี้เกียจ แล้วร้องอ้อนวอนให้แม่หยิบให้ ถ้าแม่หยิบให้จะยิ้มหวานเป็นการตอบแทน ถ้าไม่หยิบให้ก็จะคืบไปเอา แต่จะบ่นไปด้วยตลอดทาง ประมาณว่า แหม... แค่เนี้ย แม่หยิบให้ไม่ได้เหรอ ต้องให้ปันลำบากไปหยิบเองด้วย อะไรทำนองนี้ (เข้าใจว่าได้นิสัยแม่มาเต็มๆ) แต่ชอบกระโดดเป็นชีวิตจิตใจเลยค่ะ ให้โดดนานเท่าไหร่ไม่มีถอย สู้กับจิงโจ้ได้สบายๆ เดือนนี้ต้องปรับระดับที่นอนในเพลย์เพนลงแล้วด้วย เพราะปันแอบเกาะยืน (เกือบ) ได้แล้ว ตอนนี้เลยต้องนอนกลางวันในคอกเพลย์เพน บางทีพี่อุ๊จับนั่งเล่นอยู่ในคอกคนเดียว ดูโดดเดี่ยวยิ่งนัก แต่ตอนนี้ก็ยังดีกว่าให้มาคลานแข่งกับเห็บที่พื้นนะจ๊ะ รอแม่กำจัดเห็บของอ้ายปิ๊ดปี๋ออกไปจากบ้านให้ได้ก่อนเด้อค่ะ

จับปูดำได้ แต่ไม่ค่อยจะยอมจับ ต้องอารมณ์ดีๆ จริงๆ หรือเวลา Confused เช่น กำลังงอแงๆ แม่จับข้อมือปุ๊บ ก็กำมือกางมือจับปูดำ และก็นึกได้ เฮะ ร้องไห้อยู่นี่ แม่เปลี่ยนเรื่องนี่หว่า แง้งๆๆๆ ไม่เอาไม่จับ กลายเป็นโกรธหงุดหงิดไปซะงั้น

ตอนนี้ทานอาหารได้เก่งแล้ว แต่แปลกคือเวลาทำอะไรหวานๆ หน่อย จะทานได้น้อย เคยต้มผักโขมกับตับหมู แม่ชิมแล้วยังว่าขม แต่กลับทานเอาๆ
ที่แปลกคือฟันยังไม่ขึ้นนะค้าบ แต่แม่ว่าดีแล้วแหละ จะได้ไม่กัดแม่เวลากินนมเนาะ ไว้รอใกล้ๆ จะหย่านมก่อนก็ได้ค่อยขึ้นมานะจ๊ะฟันจ๋า


Friday, October 24, 2008

เปิดฤกษ์เที่ยวนอกบ้านที่พุทธมณฑล

พาปันไปไหว้พระกะเดินเล่นที่พุทธมณฑลมา หลังจาก convince พ่ออยู่เป็นนาน ในที่สุดวันนี้ได้ฤกษ์ฝนซาพาลูกไปซ่า...
แต่ลูกอิชั้นไม่ซ่าแฮะ เหมือนจะรู้ว่าพามาไหว้พระ สงบเสงี่ยมเรียบร้อยอยู่ในรถเข็น นอนเป็นคุณชายสบายแฮ ไปยังไมุ่ถึงชม. ฟ้าก็เริ่มมืด เลยต้องถอยทัพกลับบ้าน ขากลับปันๆ โวยวายใหญ่ ไม่ยอมนั่งคาร์ซีท แม่ต้องเอามาอุ้มไว้ พอมืดแล้วปันๆ ไม่ชอบนั่งรถเลยน๊า...

สรุปแล้ววันนี้เรียบร้อยดี เดินเล่นอยู่เกือบชม. ก็กลับบ้าน ขากลับป้อนเกอร์เบอร์ กินไปง้องแง้งๆ ไป แต่โดยรวมแล้วผ่านค้าบ พร้อมสำหรับการออกนอกบ้านครั้งต่อไปแย้ววว .....

Tuesday, October 21, 2008

breastpump crisis and how to solve it...

ไม่ได้อัพเดตเว็บซะหลายวัน เนื่องด้วยมี crisis เกิดขึ้นกับการให้นมปันๆ เรื่องมันเกิดจากที่แม่กะพ่อไปเดินเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ว่าจะไปซื้อของแป๊บเดียวแล้วกลับ เผอิญมันมีงานของร้าน Homeworks มาลด ซึ่งพ่อเราก็ไม่มีพลาด เดินซื้อของนู่นนี่อย่างเพลิดเพลิน แม่ก็ชะล่าใจคิดว่าเลท ชม. สอง ชม. คงไม่เป็นอะไร ผลปรากฏว่ากว่าจะกลับมาบ้านก็เลยเวลาปั๊มนมไปแล้วตั้ง 2 ชม. กว่าๆ โอโห นมไม่ได้ปั๊ม 6 ชม. แข็งเป้กเป็นก้อนหิน กลับบ้านมาแม่ก็รีบปั๊มอย่างตั้งอกตั้งใจ เลยเวลานอนปันๆ แล้วด้วย รีบๆๆๆๆ เปิดที่ปั๊มอย่างแรง ปั๊มๆๆๆๆ 25 นาที พอปิดเครื่อง โอ๊ย... ทำไมเจ็บๆ ด้านขวา ก็ไม่คิดไร รีบๆๆๆๆ เอาปันๆ เข้านอน

ตื่นนอนตอนเช้า โอ้... ไม่หายแฮะ จับดูก็ไม่มีก้อน เลยคิดว่าไม่น่าจะคัด อาจเป็นเพราะเราเปิดที่ปั๊มแรงไปหรือเปล่า แล้วก็รู้สึกมึนๆ หนาวๆ เหมือนจะมีไข้ ก็คิดว่าอาจเป็นเพราะเมื่อคืนปันๆ ตื่นทุก ชม. ทำให้แม่ไม่ได้นอน อย่ากระนั้นเลย กินพาราฯ ไปก่อนสักเม็ด แก้ไข้ แก้ปวด.... บ่ายแล้วก็ยังไม่หาย กินยาอีก คราวนี้เริ่มตะหงิดๆ เพราะรู้ตัวว่าเป็นไข้แน่ๆ จนกระทั่งตอนค่ำก็ยังไม่หาย รีบเข้านอนดีกว่าก่อนปัญหาจะลุกลาม หลับๆๆๆๆ ปันๆ ก็เป็นใจตื่นน้อยหน่อย เช้ามาอาการดีขึ้น แต่ยังเจ็บเต้านมอยู่ แถมข้างซ้ายมีก้อนคัด โอ้ๆๆๆ ชักไม่ได้การ ปรึกษาแม่ๆ ในเว็บบอร์ดหน่อยดีกว่าแฮะ.... ว่าแล้ว แม่ๆ แนะนำว่าเป็นเต้านมคัดชัวร์ปึ้ก อย่าทิ้งไว้ให้อักเสบเลย ควรไปให้หมอดูดีกว่า รุ่งขึ้นตื่นเช้ามาปั๊มนมตามปกติ ปั๊ม 25 นาที ได้นม 1 oz. รวมกันแล้ว 2 ข้าง แม่เครียดน่าซีด ...หาย (นะ) แล้ว ไปหาหมอดีกว่าตรู โทรหาหมอสุธีรา ใช่เลย หมอว่าให้มาดูหน่อยซิ วันต่อมาเลยตื่นแต่เช้าออกจากบ้านพร้อมพ่อ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไป รพ. BNH (ไกลโคตรและอ้อมโคตร) แต่ก็ยังดีกว่ารถติดอยู่บนถนน... ถึง รพ. พยาบาลบอกมาเต้านมคัดหรือคุณแม่... ค่ะ.... ไปนี่เลย อัลตราซาวนด์ที่กายภาพบำบัด โอ้โห นอนสบายมาก พยาบาลเอาเครื่องนวดแบบอัลตราซาวนด์มาคลึงๆ ที่เจ็บด้านขวา ร้อนนิดๆ แต่สบาย ราวกับทำสปา ประมาณ 5 นาทีก็เสร็จ แล้วประคบร้อนอีก 20 นาที นอนสบายเกือบหลับไป พอเสร็จแล้วก็รู้สึกหายเจ็บ ก้อนแข็งๆ มีแค่ด้านซ้ายที่ไม่ได้ซาวนด์ เสร็จไปปั๊มนมก่อนดีกว่าถึงเวลาพอดี ปั๊มได้ 4 oz. ค่อยใจชื้น แม่กระหยิ่มยิ้มย่องใจ น้ำนมยังไม่หายแฮะ เด๋วให้หมอดูคงไม่มีอะไรมากแล้ว ที่ไหนได้... แม่ยังไม่รู้อะไรเลย....

พอเจอคุณหมอ ก็เล่าๆๆ หมอฟังแล้วมากดๆ ดู นี่ไงคะก้อน มีตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้ อ่ะคุณแม่ถือผ้าไว้ต้องนวดให้มันหายไปให้ได้ค่ะ เพราะถ้าค้างไว้น้ำนมจะลดการผลิต ว่าแล้วคุณหมอก็ลงมือกด... ไม่ใช่กดสิ คุณหมอลงมือบดขยี้ลงบนก้อนแข็งๆ นั้น ซึ่งปกติแค่จับเบาๆ ก็เจ็บแล้ว นี่เอามือบดๆๆๆ กดๆๆๆๆๆ ลงไป แม่ถึงกะพูดไม่ออก น้ำตาจะเล็ด แต่ก็ไม่กล้าร้องอะไรเลยอ่ะ หมอคงรู้สึกว่าแม่หยุดหายใจไป หันมาบอกว่า คุณแม่หายใจลึกๆ ค่ะ ... เฮือกๆๆๆ... เจ็บๆๆๆ หยุดซะทีสิหมอ (แม่คิด) ... ต้องโหดกับมันหน่อยนะคะ คุณแม่... แล้วก็กดๆๆๆ ... ฮือๆๆ (แม่ก็คิด)

เป็น 2-3 นาทีที่ทรมานสุดๆ ตอนผ่าคลอดยังไม่เจ็บงี้เลยอ่ะ!

ต้องทำให้มันหายไปให้ได้ค่ะ คุณแม่ กลับบ้านไปนวดอย่างที่หมอทำ แล้ววันหลังอย่าทิ้งไว้นานโดยไม่ปั๊มนมอย่างนี้อีกนะคะ .... ค่ะๆๆๆๆ... วันพรุ่งนี้ถ้าไม่หายหมอนัดดูอีกทีนะคะ .... .... หาย (นะ) อีกแล้ว พรุ่งนี้เอาอีกหรือนี่!!!!

ตื่นนอนตอนเช้า ไปดีไหมหนอ ไปดีไหมนะ ลองปั๊มนมดู โอ้ย... ออกมา 1 oz. อีกแว้ววว ฮือๆ สงสัยจะเบี้ยวม่ายล่าย ปันๆ เพิ่ง 7 เดือนนมในสต็อกก็มีพอแค่อย่างมาก 2 เดือน โถๆๆ ลูกจ๋า ไม่ใช่ความผิดของลูกเลยสักนิด เอาวะ เป็นไงเป็นกัน...

ถึง รพ. ก็ไปสปาอัลตราซาวนด์เหมือนเดิม คราวนี้ทำ 2 ข้าง เสร็จแล้วประคบร้อน แล้วไปปั๊ม ออกมาเกือบๆ 5 oz. ค่อยสบายใจ แต่เอาละสิ จะเจอหมอละเน้อ วันนี้จะโดนบีบอีกมั้ย ... นั่งรอๆๆๆ เอา นสพ. มาอ่านข่าวเศรษฐกิจย้อมใจว่าคงมีคนกลุ้มใจกว่าเราอีก จู่ๆ ก็มีเสียงอันคุ้นหูเรียก อังคณา เงยหน้าขึ้นไป อะอ้าว คุณนายเจี๊ยบนี่หว่า พาลูกมาฉีดไอพีดี ดีๆๆๆ จะได้มีเพื่อนคุย คุยๆๆๆๆ พยาบาลเดินมา คุณแม่รอหน้าห้องค่ะ ... เอาล่ะ กลับมาสู่ความจริง

เข้าไปในห้อง หมอตรวจ กดๆ ดู ตรงนี้เจ็บไหมคะ ... ค่ะ ... ตรงนี้เจ็บไหมคะ ... ค่ะ ... อือม์ หมอว่าดีขึ้นแล้วนะ แต่ตรงที่กดแล้วเจ็บต้องไปนวดจนกว่าจะหายเจ็บนะคะ (มันยังไงๆ) ประคบร้อนแล้วนวด ให้ลูกดูด ทำไงก็ได้ให้ตรงที่เจ็บๆ มันหายไปให้หมด ... ค่ะๆๆๆ ... โอเคค่ะ หมอไม่นัดแล้วนะ ... ฮะ! ไม่โดนบีบ โอ้ว...โอเคเรยค่ะหมอ ไว้วันอาทิตย์จะพาลูกมาฉีดวัคซีนกะคุณหมอนะคะ ... โอ้เยๆ (แม่คิด)

ออกมาอารมณ์ดี ไปกันเถอะ คุณนายเจี๊ยบ ส่งลูกกลับบ้านแล้วไปช้อปหลังการบินไทย ได้คลายเครียด (มีผลต่อการผลิตน้ำนม) ได้กางเกงเลกกิ้งให้ปันๆ แล้ว (น่ารักโคตร) แล้วก็ได้เสื้อเบอร์เบอรี่ของแท้ให้หนูด้วยยยย (วู้วววว!!!) อยากไปอีกอ่ะ อยากไปอีกอ่ะ ...

วันต่อมา ตั้งหน้าตั้งตาปั๊ม ไม่เอาอีกแล้นน นมจะต้องไม่คัด ปั๊มๆๆๆ เพลินๆๆ ดูเว็บนู่นนี่ เหลือบลงมาดูอีกที ทำไมนมมันมีสีชมพู เอาแล้วไง... รีบปิดที่ปั๊มเปิดดู จริงด้วย... เลือดสดๆ ค้าบ เป็นหยดๆๆ ... เฮ้อ เป็นแม่วัวนี่มันลำบากจริงหนอ... ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิด แต่คราวนี้ออกมาเยอะกว่าเดิม คงเป็นเพราะมัวแต่ดูเว็บ นม 4 oz. ที่ปั๊ม ทิ้งหมดเรยยค้าบ (แอบเสียดาย) จริงๆ หมอบอกให้ปันๆ กินได้นะ (นมรสสตรอเบอร์รี่) แต่แม่เห็นเลือดมันเยอะเหมือนกัน ก็เลยไม่เอาดีกว่า

คิดๆ แล้วนึกถึงเพลงนี้เลย...

... โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน ...

Wednesday, October 8, 2008

7-Month Ouch!!

ว่าจะอัพเดทพัฒนาการลูกแต่ยังไม่มีแรงเลยอ่ะ ขอเล่าเรื่องสั้นก่อนละกันนะจ๊ะ 

สองสามวันมานี่ ปันเป็นอะรายก็ม่ายรุ้ ตอนกลางคืนตื่นกินนมทุกชม.เลย แม่มึนไปหมดแล้ว (คือทั้งงงทั้งอดนอน) จะว่าให้กินนมไม่พอก็ไม่น่าจะใช่ เพราะกลางวันปันก็กินปกติ แถมบางวันยังไม่ยอมกินนมซะอีก เหมือนเบื่อกินนมจากขวด สงสัยจะอ้อนแม่เนาะ รอกินนมจากแม่ตอนกลางคืนรึเปล่า... รึว่าจะเป็นช่วง Growth Spurt กินดีกินเด่น อือม์ .. หลายทฤษฎีแล้วแม่ชักจะงงงงอ่ะ เอาเป็นว่าจะอดทนดูว่าใช่ช่วงกินดีกินเด่นรึเปล่านะจ๊ะ ซึ่งถ้าใช่น่าจะเป็นอยู่ประมาณอาทิตย์นึง แต่ถ้าเป็นเพราะอ้อนแม่ คงต้องออกมาตรการอะไรบางอย่างปราบปรามนมมื้อดึก...

ไม่ใช่ว่าแม่ใจร้ายนะปัน แต่ตอนนี้ปันโตแล้ว ไม่มีความจำเป็นทางโภชนาการใดๆ ที่จะต้องตื่นมากินนมมื้อดึกบ่อยๆ แต่มีความจำเป็นเรื่องการเติบโต (โดยเฉพาะความสูง) ที่จะต้องนอนยาวให้มีช่วงหลับลึกให้มากๆ เพื่อร่างกายจะได้หลั่ง Growth Hormone และฟันก็จะขึ้นแล้ว ถ้ายังกินนมมื้อดึกจนติดจะกลายเป็นว่ามีโอกาสฟันผุอีกตะหาก  แล้วตอนนี้ปันก็เริ่มกัดแม่ (ไม่รู้ว่าหงุดหงิดหรือฝึกใช้ฟันที่ยังไม่ขึ้น)   แถมอีกก็คือพอกลางคืนปันนอนไม่พอปันก็มานอนกลางวัน ทำให้กลางวันปันก็โยเย เล่นได้น้อย ทั้งๆ ที่ก็อยากจะเล่น (แต่มันง่วงอ่ะแม่) ทำให้เวลาเสริมสร้างพัฒนาการของปันๆ น้อยลงอีก 
เห็นมั้ยว่าแม่หวังดีกับปันๆ ขนาดไหน (เอาไว้โตแล้วมาอ่านจะซึ้งๆ.. ฮิฮิ) 

รักปันจ้ะ (พูดครั้งที่ล้านแล้วววว) 

Wednesday, October 1, 2008

แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูอ๊านตี้นุชจี้

วันนี้วันเกิดป้านุช ปันๆ ส่ง MMS ไปสุขสันต์วันเกิดพร้อมรอยยิ้มตั้งแต่เช้า ขอให้ป้านุชสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยๆ ตลอดไปค้าบ 

เมื่อวานพ่อซื้ออาหารกระปุกของเกอร์เบอร์มาให้ปันๆ เยอะเลย ต้องบอกว่าดวงจะได้กิน เพราะแม่ตามหาในซูเปอร์ฯ หลายห้างแล้วไม่เจอเลย กะว่าอาทิตย์หน้าจะออกไปวิลล่า ปรากฏว่าเค้ามาตั้งบูธขายที่ SCB เช้ยย แถมลดแลกแจกแถมซะอีก พ่อเลยขนนนน...ซะ 

เกอร์เบอร์หลากรสมีทั้งแครอท ผลไม้รวม ไก่และผัก บะหมี่ไก่ และมันฝาหรั่ง เอาไว้ตอนปันๆ ไป ตจว. หรือไปนอกบ้านเนอะ 

Monday, September 29, 2008

ก้อนนี้.... แมนนสุดๆๆ

สองวันที่ผ่านมา ปันๆ ไม่อึเลย แม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเริ่มทานอาหารเสริม ก็เลยทำให้ถ่ายยากขึ้น และแล้วเมื่อเช้านี้เอง ปันไขข้อข้องใจให้พี่อุ๊และแม่คลายสงสัย หลังจากเบ่งเคร่งเครียดจนหน้าแดง... ปุด ปุด ปุด ออกมาเป็นก้อน 3-4 ก้อน อึเป็นก้อนๆ ได้แล้นน ผมแมนมั้ยแม่ ... พี่อุ๊รายงานว่าก้นแดงแป๊ด แถมพออึเสร็จเปลี่ยนแพมเพิร์สปุ๊บ ปันๆ ก็นอนแผ่หมดแรงข้าวต้มอยู่เป็นนานนนน เฮ้อ! เหนื่อย เหนื่อย ใครว่าโตเป็นผู้ใหญ่เป็นเรื่องง่าย จริงมะ 
ฮะฮา...  

Thursday, September 25, 2008

เพลงกล่อมเด็กดี

แต่งเพลงกล่อมปันๆ ได้ 2 เพลงแล้ว ยืมทำนองเค้ามาใช้ เอาไว้จะฝึกพ่อร้องด้วยนะจ๊ะ 

เพลงที่หนึ่ง

หลับเถิดปัน... หลับเถิดปัน... หลับตาแล้วเจ้าจงฝันดี แม่อยู่ข้างกาย พ่ออยู่ใกล้ๆ เฝ้าดูเจ้าไม่ห่างไปไหน

หลับเถิดหนา... ปันเด็กดี ข้างแม่นี้ที่คอยห่วงใย ห่วงและแหนเจ้ากว่าใคร คอยใส่ใจไม่เคยห่าง

หลับเถิดปัน... หลับเถิดปัน... หลับตาแล้วเจ้าจงฝันดี แม่อยู่ข้างกาย พ่ออยู่ใกล้ๆ เฝ้าดูเจ้าไม่ห่างไปไหน

หลับเถิดหนา... ปันเด็กดี วันพรุ่งนี้เจ้าจะสดใส และสุขสันต์เกินกว่าใคร ในเมื่อยามนี้เราเข้านอน

หลับเถิดปัน... หลับเถิดปัน... หลับตาแล้วเจ้าจงฝันดี แม่อยู่ข้างกาย พ่ออยู่ใกล้ๆ เฝ้าดูเจ้าไม่ห่างไปไหน

หลับเถิดหนา... ปันเด็กดี แม่จะมีรักให้เรื่อยไป พ่อก็รักยิ่งกว่าใคร จงมั่นใจไว้ไม่มีเปลี่ยน

หลับเถิดปัน... หลับเถิดปัน... หลับตาแล้วเจ้าจงฝันดี แม่อยู่ข้างกาย พ่ออยู่ใกล้ๆ เฝ้าดูเจ้าไม่ห่างไปไหน

หลับเถิดหนา... ปันเด็กดี ข้างแม่นี้ที่คอยห่วงใย ห่วงและแหนเจ้ากว่าใคร คอยใส่ใจไม่เคยห่าง 

เพลงที่สอง

พ่อและแม่รักน้องปัน พ่อและแม่รักน้องปัน พ่อและแม่รักหนู กล่อมให้หนูเข้านอน (ซ้ำ) 

สรุปเรื่องอาหารเสริม

เรื่องอาหารเสริมนี่มันวุ่นวายพอดูนะ แม่ขอสรุปที่หมอสุธีราพูดคร่าวๆ ไว้อย่างงี้นะจ๊ะ 

  • เริ่ม 6 เดือนให้เน้นกินผักหลายอย่าง เพื่อให้ชินกับรสชาติผักและไม่ติดหวาน ผักกินได้หลายอย่าง เช่น แครอท หัวไชเท้า มันเทศ มันฝรั่ง มะเขือเทศ ตำลึง บุ้ง คะน้า กาดขาว ข้าวโพดอ่อน ดอกกะหล่ำ บร็อคโคลี่ ฟัก ฟักทอง ถั่วลันเตา ... โอ้ย กินได้หมดนี่แม่ก็ชื่ีนใจแล้วลูก
  • เนื้อสัตว์กินได้ปกติ ยกเว้นอาหารทะเล ให้รอขวบนึงไปแล้ว ถ้าอยากให้กินปลาให้กินปลาน้ำจืดได้ เช่น ปลานิล ปลาช่อน ... คิดไม่ออกแล้วว่าปลาน้ำจืดมีอะไรบ้าง (มีปลาหมอกะปลาคาร์พที่พ่อเลี้ยงไว้  กินได้ไหมอ่ะ)
  • ไข่ ทานได้เฉพาะไข่แดง ไข่ขาวมีสารก่อการแพ้ได้ง่าย ต้องรอขวบนึงไปแล้ว ต้องแยกให้ดีๆ แยกตอนต้มสุกแล้วจะง่ายกว่า เคยอ่านในเว็บ แม่แยกตอนไข่ดิบ เด็กกินปนเข้าไป อาเจียนเป็น 7-8 รอบ ต้องระวังนะจ๊ะ
  • อาหารจากนมวัวทุกชนิดงดงดงดงดงด (all dairy products) เป็นเวลา 2 ปี 
  • ข้าวให้ทานข้าวกล้อง แต่แม่เลือกเองให้ทานจมูกข้าวกล้อง หุงมาแล้วเหนียวหนุบหนับๆ แต่หอมมมม ได้ใจ
  • 1 ปีแรกไม่ต้องปรุงรสอาหารใดๆ เลย
  • 6 เดือนให้เริ่มดื่มน้ำพร้อมมื้ออาหารได้แล้นน 
  • 7 เดือนค่อยเริ่มผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล ชมพู่ สาลี่ ปั่นมูลิเน็กซ์ กล้วย มะม่วงสุก มะละกอสุก ครูดด้วยช้อน ไม่ต้องกินน้ำผลไม้ ให้กินเป็นเนื้อผลไม้จะได้กากช่วยในการขับถ่าย กินข้าวเสร็จแล้วกินผลไม้ต่อ 
  • ช่วง 6-7 เดือน นำอาหารครูดผ่านกระชอน ให้กินเป็นเนื้อโยเกิร์ต เนียนๆ พอ 8-9 เดือน เริ่มให้หยาบขึ้น ไม่ต้องครูด แค่เอาช้อนบดก็พอ สัก 10-11 เดือน ต้มอาหาร ไม่ต้องตุ๋นแล้ว และพอ 12 เดือนหม่ำๆ ข้าวสวยได้เหมือนผู้ใหญ่เลยจ้ะ หม่ำข้าวเหนียวก็ได้ 
  • เริ่มกินจาก 1 ชต. ต่อมื้อ ลดนมแม่ 1 oz. อีกวันเพิ่มเป็น 2 ชต. ลดนมแม่ 2 oz. .... อย่างงี้ำไปเรื่อยๆ จนครบ 5 ชต. และงดนมแม่ไปเลย 1 มื้อ  แต่มื้ออื่นๆ ที่กินนมแม่ให้เพิ่มปริมาณนมแม่อีก 1 oz. 
  • จำนวนมื้ออาหาร: 6 เดือน กิน 1 มื้อ; 9 เดือน กิน 2 มื้อ; 12 เดือน กิน 3 มื้อ หลังจากนี้นมแม่จะกลายเป็นอาหารเสริม (ฮือๆ อิช้านรอวันจะกลายเป็นตัวสำรอง) 
  • ส่งเสริมทัศนคติที่ดีในการกิน ถ้าป้อนแล้วไม่กิน หมอให้เก็บเลย ไม่ต้องให้นมแม่ด้วย ให้งดมื้อนั้นไปเลย ไม่ต้องหลอกล่อ เพราะถ้าหลอกล่อก็จะต้องทำไปเรื่อยๆ ลูกจะเอาการกินมาต่อรองให้เล่น ให้ทำนู่นทำนี่ให้ดู (เหอเหอ ข้อนี้ทำไม่ได้อ่ะหมอ ป้อนข้าวปันๆ ใช้เวลา ชม.นึงทุกวันเลย พอปันๆ ไม่กินก็ต้องร้องเพลงให้ฟัง หลอกนู่นหลอกนี่อ่ะ ก็ปันๆ เล่นไม่อยากกินทั้งข้าว ไม่อยากกินทั้งนมแม่ ช่วงนี้ เป็นอารายก็ไม่รุ้ แม่ก็ทำใจไม่ได้ กล้วลูกผ่ายผอมอ่ะ) 
ที่หมอแนะนำคร่าวๆ ประมาณนี้จ้ะ 

อาหารเสริม (ภาคสาม)

แม่เริ่มทำอาหารสำหรับปันๆ ได้คล่องแล้วจ้ะ เมนูต่อมานี้แนะนำให้รู้จักกับตับหมูนึ่งครูดผ่านกระชอน พร้อมด้วยผักโขม และแครอทเล็กน้อย อ้อ... แกล้มด้วยหมูบด (โอ้โห มื้อนึงกินหลายอย่างแฮะ) 
ท่าทางปันจะชอบ แม่เห็นหม่ำๆ ใหญ่ รู้ใจลูกแล้ว เวลากินข้าวต้องเตรียมน้ำซุบไว้ให้กินต่างหากถ้วยนึงด้วย ปันงี้ชอบซดน้ำซุปสุดๆ กินข้าวเสร็จแล้วต้องขอยกชามน้ำซุปขึ้นซดซู้ดๆ แก้คอแห้ง เหมือนพ่อจังเลยอ่ะ ... แต่ก็ดีจะได้กินง่ายๆ เหมือนกัน แม่รู้เมนูโปรดตอนปันๆ โตแล้วล่ะ พ่อกะลูกให้โซ้ยมาม่าทั้งคู่เลย ฮิฮิ ซำบายเรา...

Tuesday, September 23, 2008

อาหารเสริม (ภาคสอง)

ปันๆ ไม่ประทับใจพี่จมูกหอมกับน้องตาหวานเรยย แถมอาโผ่ยังมาบอกว่าแม่ทำน้ำซุปไม่อาหย่อย ฮึฮึ เสียกำลังใจ T_T 
แต่อาโผ่ก็บอกสูตรเด็ดน้ำซุปให้นะจ๊ะ คือไม่ได้เอากระดูกมาต้มน้ำเหมือนที่ผู้ใหญ่กิน แต่ให้ใช้เนื้อเลย เช่น เนื้อหมู เอามาสับๆ แล้วใส่ถ้วยไว้ ตั้งในหม้อที่มีน้ำ แล้วตั้งไฟ เรียกง่ายๆ ว่า นึ่ง นั่นแหละ จนมีน้ำหมูออกมาจากเนื้อหมู ให้ใช้น้ำนั้นแล ทำน้ำซุปใสให้ปันๆ โอ้ พระเจ้าจอร์จ มันยอดด (หวานนน) มากกก แต่เหมือนทำน้ำกลั่นเลยลูก กว่าจะได้สักช้อนโต๊ะ 

เมนูถัดมาแม่ทำฟักทองผสมกับพี่จมูกหอมให้ปันๆ แรกๆ ไม่ชอบกินแฮะ แต่พอวันที่สองเพิ่งรู้ว่ามันอร่อยกว่าเดิมเหรอจ๊ะ   แม่ไม่อยู่บ้าน ให้พี่อุ๊เป็นคนป้อน หม่ำๆ พร้อมกับพ่อและคุณย่าตอนเที่ยง โอ้โห รอยเตอร์รายงานว่ากินหมดชามเยยย สรุปว่าตัวแปรคืออะไร พี่อุ๊เป็นผู้ป้อน หม่ำๆ พร้อมกับพ่อและคุณย่า หรือว่าแม่ไม่อยู่บ้าน (ฟะ) 

ปันกินฟักทอง อึออกมาก็เป็นฟักทองเลยเนอะ อื้อหือ เหลือเชื่อ 

เมนูที่สามแม่ใช้ผักตำลึงหวานกับหมูบดพร่ำเพรื่อ (คือบดจากที่ร้านแล้ว ต้มสุกแล้วเอามาบดผ่านกระชอนอีก) ผสมกับพี่จมูกหอมให้ปันๆ อ้อ แล้วก็น้ำซุปสูตรเด็ด อร่อยมากๆ ปันๆ กินตั้งเยอะแน่ะ แถมตอนค่ำอึมาเป็นสีเขียวของตำลึง ฮึฮึ แม่เลยปิ๊งไอเดียว่าจะทำคัลเลอร์ฟูล คอลเลคชั่น อึปันๆ มีสีเหลือง สีเขียว เด๋ววันนี้ให้กินแครอทจะได้สีส้ม วันหน้ามะเขือเทศ ได้สีแดง ว้าววว 

อี๊เจี๊ยบให้เคล็ดไม่ลับอีกแล้นน 
เวลาไปซื้อเนื้อ ใช้เนื้อของเอสเพียว (แม่ซื้อขีดเดียว 25 บาท) แล้วให้เค้าใส่ถุง ใส่น้ำแข็งให้ด้วย ที่เอ็มโพเรียม กะที่พารากอน ถุงดีอ่ะ ทนทาน เป็นแบบเนื้อหนา ไม่เลอะเทอะด้วย ชอบบ แถมเนื่องจากแม่ซื้อหมูขีดนึง ตับขีดนึง ใส่ถุงแยก แล้วแพครวมในถุงน้ำแข็ง ราคารวม 50 บาท ถ้าไม่ใช่ห้างหรูนี่ พนักงานจะบริการอะป่าวก็ม่ายรุ้ นี่ไง ข้อดีอีกอย่างของห้างหรู นอกจาก free valet parking ฮ่าฮ่า มีข้อแก้ตัวให้พ่ออีกแล้วตรู 
และถ้าซื้อปลานะ จะวุ่นวายกว่านี้อีก เพราะซื้อ 1 ชิ้น ต้องให้เค้าแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีมื้อ แล้ว wrap ด้วยพลาสติกใสแต่ละชิ้น แล้วค่อยแพครวมในถุงน้ำแข็ง บริการนี้ถ้าเป็นปลาหิมะอลาสก้า หรือปลาคอด เค้าคงโอเคอ่ะนะ แต่พวกปลาทับทิม ปลานิล อะไรนี่ไม่แน่แฮะ แต่ม่ายลองก็ม่ายรุ้เนอะ
 

Friday, September 19, 2008

อาหารเสริม

วีคนี้เริ่มอาหารเสริมให้ปันๆ แล้ว เมนูเรียกน้ำย่อยของปันๆ มีอะไรบ้างเอ่ย

น้องตาหวานกับพี่จมูกหอม 
จมูกข้าวกล้องต้มกับน้ำพอแฉะๆ แล้วเอาไปตุ๋นอีกทีให้นุ่มๆ หอมสุดๆ คือพี่จมูกหอม 
น้ำซุปโครงไก่ กรองด้วยผ้าขาวบางเป็นซุปใส 
ตำลึงต้มสุกสับละเอียด คือน้องตาหวาน 
นำทั้งหมดผสมรวมกัน แล้วบดผ่านกระชอน เพื่อให้เนื้อนวลเนียน 
ราดท้อปปิ้งเป็นนมแม่เล็กน้อย พอให้จำแม่ได้บ้าง ฮิฮิ 
หน้าตาน่ากินสุดๆ จนแม่ต้องขอลองชิมซิ.... อือม์ จืดสนิท น่าจ๋งจ๋านจัง ต้องกินยังงี้ไปก่อนนะลูก 

เคล็ดไม่ลับ ประหยัดเวลา
แม่ทำปริมาณสำหรับวีคนึงไว้ แล้วเอาข้าวบดใส่บล็อกน้ำแข็ง เอาซุปใสใส่อีกบล็อก เวลาจะกินค่อยแกะมารวมกัน แค่ต้มตำลึง สับและบดผ่านกระชอน มารวมกันอีกที เอาไปใส่วอร์มเมอร์ก็กินได้แล้นน 
อ้อ... ไม่ใช้ไมโครเวฟ เพราะกลัวอาหารจะร้อนไม่ทั่วกัน ตรงส่วนที่ร้อนมากจะลวกปากลูกได้จ้ะ

หมอให้เริ่มกินช้อนโต๊ะเดียว แล้วค่อยๆ เพิ่มทีละช้อน จนครบ 5 ช้อน เท่ากับ 1 มื้อพอดี 
วันแรกปันกินไม่ถึงช้อน แล้วก็ทำหน้าเซ็งสุดๆ แบบว่า โถ เห็นพ่อกับแม่กินข้าว นึกว่าจะอร่อย ทำไมรสมันจืดยังงี้อ่ะค้าบ 

ไว้เมนูหน้าจะหาอะไรหวานๆ หน่อยให้หม่ำๆ นะจ๊ะ 

Wednesday, September 17, 2008

ถึงอากบค๊าบ


ปันๆ เป็นกำลังใจให้ ขอให้อากบได้งานใหม่ที่ดีๆ ตอนนี้ไม่ต้องเครียดนะค๊าบ บินไปเที่ยวฟรี เที่ยวเผื่อปันๆ ด้วยเด้อค้าบ... เดินได้เมื่อไหร่ ปันๆ จาไปเยี่ยมน๊า...

Monday, September 1, 2008

Pun's Debutant Party


ปันไปเที่ยวนอกบ้านครั้งแรก (24 ส.ค.) ก็คือไปบ้านพี่แดนนี่ เป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของพี่แดนนี่และพี่หมิง โอ้โห เค้า 1 ขวบกันแล้วน๊า... งานนี้น้าโอกับน้ามดกลับมาเยี่ยมบ้านจากเมกา ก็เลยมาร่วมงานด้วย พร้อมกับพาพี่จัสมินคนสวยมา เป็นสาวสวยแล้ว ครั้งที่แล้วแม่กับพ่อเจอพี่จัสมิน ก็อายุเท่ากับปันๆ ตอนนี้นั่นแหละ จำได้ว่ากำลังพลิกคว่ำ น่ารัก จ้ำม่ำ เหมือนปันๆ เลย แต่เรื่องจ้ำม่ำคงไม่มีใครเกินพี่แดนนี่แล้วมั้งค้าบ น่าฟัดเป็นที่ซู้ด อ้อ... พี่แชมป์ลูกป้าปุ้มก็มาด้วยนะจ๊ะ แถมมาหอมปันๆ ใหญ่เลย ปันก็ชอบเนอะ เห็นก็หอมเค้ากลับนี่ (เอ๊ะ ชักจะยังงัยๆ)
งานนี้ใครๆ ก็ขออุ้มปันๆ กันทั้งน้าน และที่สำคัญ ปันๆ ก็โผหาคนนู้นที คนนี้ที แม่แทบไม่ได้อุ้มเลยลูก อ้อ.. แล้วก็ยังคืบโชว์ซะอีกแน่ะ เล่นของเล่นพี่แดนนี่ สนุกไปเรยย ไปถึงงานตอนเที่ยง เผลอแผล็บเดียวจะหกโมงเย็นซะแล้ว
วันนี้ปันเป็นน้องเล็กสุด แต่อีกไม่กี่เดือนก็จะมีน้องใหม่อีก 2 คนแน่ะ ทั้งน้องสาวลูกของน้ากันกะน้านต และน้องชายลูกของหยี่โบและหยี่ชองเบิ้ล โอ้โห.. สมาชิกใหม่เพียบ... ปาร์ตี้คราวหน้าคงครึกครื้นน่าดู :) ฮิฮิ ปันๆ 1 ขวบ แม่อยากช่วยเป่าเค้กเร็วๆ จังจ้ะ

Tuesday, August 26, 2008

บันทึกการเลี้ยงดูปันๆ


ตอนนี้ปันๆ อายุจะ 6 เดือนแล้ว กินนมแม่มาตลอดตั้งแต่เกิด นน.แรกเกิดประมาณ 3.4 กก. ตอนปันๆ 6 สัปดาห์ แม่เริ่มปั๊มนมให้ดูดขวด (ฝึกเผื่อวันไหนแม่ต้องออกไปทำธุระ) ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ปันๆ ดูดขวดนมได้แต่ไม่ติด ยังคงชอบและโหยหานมจากเต้ามากกว่าเสมอ แรกเริ่มให้กินนมแม่จากขวดวันละ 1 มื้อ (3 oz.) แต่พอช่วง 2-3 เดือน นน. ตก curve ไป คุณหมอแนะนำให้เพิ่มเป็น 2 มื้อ อย่างน้อยจะได้ make sure ว่ากินไป 6 oz. เห็นๆ และมื้ออื่นๆ ก็กินจากเต้า ซึ่งก็ทำอย่างนี้เรื่อยมาจน 3 เดือนเพิ่มให้เป็นมื้อละ 4 oz. และ 4 เดือนก็เพิ่มเป็น 5 oz. พอช่วง 4 เดือน ชั่งนน.อีก ปรากฏว่าเข้ามาอยู่ใน band แล้ว แต่ยังตก mean อยู่ (คือเลย minimum แต่ยังไม่ถึงค่า mean) ก็เลยเพิ่มให้อีกมื้อเป็น 3 มื้อต่อวัน โดยห่างกันมื้อละ 4 ชม. (10:00, 14:00, 18:00) และให้นมเองมื้อที่เหลือ (6:00, 20:00-23:00, 2:00, 4:00) โดยมื้อ 2 ทุ่มจะกินยาว คือ กินแล้วหลับ พอเอานมออกก็ตื่นมาดูดต่อ กว่าจะหลับสนิทจริงๆ ก็ประมาณ 4-5 ทุ่ม ส่วนมื้อตี 2 กะตี 4 จะกินได้น้อยเพราะสะลึมสะลือหรือบางทีไม่ตื่นมากิน ตอนนี้ ปันๆ ยังกินจากขวด 3 มื้อ คือ 15 oz. ต่อวัน แม่ปั๊มนมประมาณวันละ 3-4 ครั้ง (7:30, 11:30, 16:00, 23:00) ได้น้ำนม 18-20 oz. ปันๆ 5 เดือนครึ่ง นน. ประมาณ 6.5 กก.
อีก 2 weeks จะเริ่มอาหารเสริมได้แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเวลา 6 เดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ อีกไม่นานแม่ก็ต้องไปทำงาน ไม่ได้อยู่กับปันๆ ทั้งวันแบบนี้แล้วเนอะ ช่วงเวลา 6 เดือนปันๆ ก็มีความเปลี่ยนแปลงเยอะมากๆ ตอนแรกๆ ปันๆ ยังทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เอาแต่นอนแบเบาะ แล้วปันๆ ก็เริ่มมองหน้าคน เริ่มยิ้ม เริ่มขยับแขน เตะขาเยอะขึ้นๆ จนวันนี้ ถือขวดนมกินเองก็ได้ คว่ำก็ได้ และจะคืบได้แล้ว น่าอัศจรรย์จริงๆ เผลอแผล็บเดียว หนูจะเคี้ยวอาหารแล้วเน้อ
รักปันๆ เสมอจ้ะ


Tuesday, August 19, 2008

ฮ่าฮ่า อาโผ่มั่วมาก...

ครือว่าเมื่อวานเล่นกับปันๆ แล้วก็สังเกตว่าทำไมดอกไม้ของปันๆ หายไปแย้ว เดิมมีจุดขาวๆ ตรงกลาง ที่อาโผ่ภูมิใจนำเสนอว่าเป็นฟันล่างคู่หน้า แต่ถ้าเป็นฟันมันจะหลุดไปได้จริงเหยอ แม่รีบตรวจดูเหงือกของปันๆ ก็ปกติดี มิมีร่องรอยการถูกโจรกรรมแต่อย่างใด เรียบเนียนสนิทเฉกเช่นยามแรกเกิด ชะรอยอาโผ่เราจะมั่วซะแล้นน หลงให้เราและใครต่อใครเข้าใจว่าปันๆ ฟันขึ้นตั้งแต่ 4 เดือน เด๋วจะต้องไปถามคุณหมอว่าเกิดอะไรขึ้นนี่ ดอกไม้บานได้หุบได้
โอ้โห ... อย่างฮา

Tuesday, August 12, 2008

เป็นผื่น

ปันๆ เป็นผื่นที่หน้าเต็มเลย ฮือๆ
สงสัยแพ้เครื่องสำอางแม่ ไม่น่าเลยย สองสามวันที่ผ่านมาแม่ออกไปเรียนขับรถเลยประแป้งทาหน้า มาหอมแก้มปันๆ เลยแพ้ซะ...



น่าจ๋งจ๋าน ขอโทษนะคะลูก

Wednesday, July 30, 2008

หนังสือของปัน-ปัน


โดย Pass Publishing อันนี้เป็นซีรีส์ ปันชอบเล่ม "สวัสดี" ที่สุด เริ่มอ่านตั้งแต่ 2 เดือนกว่าๆ จนตอนนี้ยังไม่เบื่อเลย


2 เล่มนี้ปันๆ ไม่ค่อยชอบอ่านเท่าไหร่ แต่รูปเด็กผู้ชายหน้าเหมือนปันๆ เลยน๊า

เล่มนี้ ชอบเหมือนกันนะ เพราะเป็นคำกลอนเก่าๆ แม่อ่านแล้วก็เพลินดี แต่รูปไม่ค่อยสวยเลยอ่ะ


เล่มนี้ถูกใจอย่างมาก อ่านให้ปันๆ ฟังก่อนนอนเกือบทุกคืนเลย ปันๆ เห็นแม่หยิบหนังสือมาก็หัวเราะดีใจ เตะขาใหญ่แล้ว ต้องให้เครดิตอี๊เจี๊ยบที่แนะนำหนังสือดีๆ ให้นะค๊าบ


เอาเล่มนี้มาสลับอ่านกับ อ้ำๆ แต่ไม่โดนใจปันๆ เท่าไหร่แฮะ เห็นเป็นรูปพ่อช้างก็เลยซื้อมา ดันกลายเป็นช้างตื่นสายซะนี่ โถๆ ไม่ได้ตั้งใจกระทบกระเทียบใครน๊า


อันนี้ ตั้งใจซื้อให้ปันๆ เลย พร้อมกับอีกเล่มชื่อลูกเป็ดมอมแมม (เพราะไม่อาบน้ำ) อ่านให้ปันๆ ฟังแล้ว ปันๆ ร้องไห้แฮะ (หรือจะรู้ว่าแม่แอบว่า :P) ก็ปันๆ สระผม อาบน้ำทีไร ร้องไห้ทุกทีซีน่า



เดือนที่ 4-5


พัฒนาการด้านร่างกาย

คว่ำเองได้แล้ว (22 ก.ค.) คืบหยิบของได้ใกล้ๆ (26 ก.ค.) ประสานมือเอากำปั้นเข้าปาก (มือเดียวมันไม่อิ่มอ่ะแม่) จับขวดนมกินเองได้แล้น โดดๆ เด้งๆ

พัฒนาการด้านสังคม

โผหาคนอุ้มได้ (27 ก.ค.) Shake Hands (28 ก.ค.) ปันๆ รู้ชื่อตัวเองแล้ว พอเรียกปันๆ ก็จะหัน แต่เรียกชื่ออื่นไม่หันนะจ๊า

วันนี้พี่อุ๊ถามว่า แม่หนูอยู่ไหน แล้วปันๆ ก็หันมามองหน้าแม่ทันทีเลย โอ้โห ไม่ได้โม้นะเนี่ย

Thursday, July 24, 2008

ป๋มคว่ำได้แล้วค้าบ

ปัน-ปัน

เมื่อวาน ปััน HBD แม่ด้วยของขวัญวันเกิดสุดซึ้งเลยค้าบ จู่ๆ ปันก็พยายามอยากจะคว่ำด้วยตัวเอง ทุลักทุเลหน่อยแต่ก็ทำสำเร็จในที่สุดแล้วค้าบ น่ารักจังเลยลูกแม่ เด๋วจะ upload vdo มาโชว์ แต่ซะว่าตอนนี้ยังทำม่ายเป็นอ่ะ ต้องทำการศึกษาซักกาหน่อยก่อนน๊า

เมื่อเช้าตื่นมาปุ๊บก็ยืนยันให้แม่ดูอีกทีเนอะว่าทำได้แร้ววว เย้ เย้

อาโผ่เตือนว่าพอคว่ำได้ปันจะคว่ำเรื่อยๆ ให้ต้องระวังหล่นตุ๊บจากเตียงฮ่ะ

รักปัน-ปันจังเลย

Friday, July 11, 2008

ยามดอกไม้บาน

ฟันผมขึ้นแล้วค๊าบ เป็นจุดๆ สีขาวตำแหน่งฟันล่าง ตอนแรกแม่นึกว่าเป็นสิวร้อนในซักกาอีก ฮี่ๆ ทำให้ปันๆ คันเหงือก กัดโน่นกัดนี่ น้ำจิ้มไหลทั้งวันเลยย

Saturday, July 5, 2008

เดือนที่ 3-4


ปันๆ ไม่ชอบสระผม อาบน้ำเรยย ทำมายก็ม่ายรุ้

พัฒนาการด้านร่างกาย

ปันๆ ชอบให้จับยืน และยืนได้นานมากๆ แต่ยังนั่งได้ไม่นาน ปันๆ พลิกตัวนอนหงายจากท่านอนคว่ำได้เอง ตอนนี้นอนคว่ำได้นานขึ้น ประมาณ 10 นาทีแล้ว แม่จับมือช่วยหมุนให้พลิกคว่ำได้ และปันจะพยายามคืบหยิบของเล่น ตอนนี้คอแข็งแล้ว และถือของสองมือได้นาน จนแม่ว่าจะพาไปช่วยถือของตอนช้อปปิ้งแล้วนะจ๊ะ แม่เอาของเล่นที่เขย่าแล้วมีเสียงให้ปันๆ ก็เริ่มเขย่าได้แล้วน๊า

พัฒนาการด้านภาษา

ชอบให้แม่อ่านหนังสือให้ฟัง ผมรู้จักหนังสือหลายเล่มแล้วน๊า บางทีได้ยินเหมือนปันพยายามเลียนเสียงว่า ดี หรือ นี่แน่ะ แต่คงเข้าข้างลูกตัวเองมากไปรึป่าว

พัฒนาการด้านสังคม

ปันๆ ยิ้มเก่งสุดๆ โชว์เหงือก ร้องอาๆๆๆ ชอบใจจัง แล้วก็ชอบส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด เวลาส่องกระจกก็จะยิ้มเอียงอาย (ทำไมผมหล่อยังงี้คร้าบ)

ปันชอบเล่นเป่าลม เล่นลมเพลมพัด เป่าพู่ๆ เล่นน้ำลายไหลยืดๆ ทุกวันเลยย ตอนนี้เห็นอะไรก็เอาเข้าปากหมดนะ คว้าผ้าอ้อมเอาเข้าปาก ชอบดึงเสื้อโชว์พุงพลุ้ย แระก็ชอบแอบดูทีวีเวลาแม่เผลอ เหอ เหอ เสียใจนะจ๊ะหนูต้องรอ 5 ขวบโน่นแน่ะ

พัฒนาการด้านจิตใจ

ผมจำแม่ได้ จำพ่อได้ คุณย่า อาโผ่ พี่อุ๊ พี่โส จำได้หมดแล้วค๊าบ และก็เริ่มมีความคาดหวัง เช่น รู้ว่าพอกิน Air X แล้วจะได้หม่ำๆ นม หรือพอพี่อุ๊ถืิอขวดนมมาก็จะรู้ อ้อ! แล้วปันก็ตรงเวลาเป๊ะเลย พอถึงเวลากินนม ก็จะตื่นนอนก่อนสัก 10-15 นาที

Wednesday, June 25, 2008

ฟังผมร้องเพลงหน่อยค้าบ



ปันๆ บ่นอารายก็ม่ายรุ้

Tuesday, May 20, 2008

เดือนที่ 2-3

พัฒนาการด้านร่างกาย

ช่วงแรกๆ ปันๆ ยังไม่ชอบให้จับคว่ำ แต่พอใกล้ๆ 3 เดือน ก็เริ่มนอนคว่ำได้แป๊บนึง ประมาณ 3-4 นาที ยกคอขึ้นได้ประมาณ 45 องศา ไปหาหมอเดือนที่ 2 นี้ คุณหมอว่าปันๆ น้ำหนักขึ้นน้อย สงสัยแม่จะ strict เรื่องตารางเวลาการกินนมมากไปหน่อย คุณหมอแนะนำให้ปันๆ กินนมแม่จากขวดเพิ่มจากวันละ 1 มื้อ เป็น 2 มื้อ โดยกินมื้อละ 3 oz. และนัด checkup อีก 2 สัปดาห์ ซึ่งน้ำหนักปันๆ ก็ขึ้นปกติดีจ้ะ

พัฒนาการด้านภาษา

ผมบ่นเอ้วๆๆๆ ทุกวันเลยค๊าบ

พัฒนาการด้านสังคม

งานอดิเรกผมชอบดูดกำปั้นคับ แระก็ชอบเป่าพู่ๆ เล่นน้ำลายเป็นชีวิตจิตใจ ตอนนี้มองเห็นได้ไกลไปถึงนอกบ้านแล้วน๊า มองปิ๊ดปี๋ มองต้นไม้ มองนก


Friday, May 9, 2008

สรุปสาระสำคัญช่วงแรก 0-2 เดือน

  • ให้นมปันๆ ทุกๆ 2-3 ชม. ในตอนกลางวัน และ 3-4 ชม. ในตอนกลางคืน สลับซ้ายขวาข้างละ 15 นาที นี่คือตามทฤษฎี ถ้าทำได้ตามนี้ ก็ทำไป แต่จริงๆ แล้วก็ควรให้เมื่อลูกร้องหิว ซึ่งอาจจะบ่อยกว่าตามทฤษฎีกำหนด เพราะบางทีลูกดูดนมแล้วหลับไป ทำให้ได้น้ำนมไม่เต็มที่จึงหิวบ่อยขึ้น ประกอบกับลูกต้องการใกล้ชิดแม่ให้รู้สึิกอบอุ่นใจแล้วหลับไป ตอนกลางคืนปันๆ จะดูดนมแม่ตลอด ข้างละชม. สลับกันไปเรื่อยๆ ไม่หยุดเลย เป็นเวลา 3-4 ชม. ถึงจะคายออกแล้วหลับไป แรกๆ ก็งง ปรับตัวไม่ได้ เหนื่อยมาก แต่หลังๆ ก็ทำใจได้แล้ว ต้องขอบคุณอี๊เจี๊ยบที่ืำทำให้ได้คิด ว่าจริงๆ แล้วแม่ควรจะดีใจที่ปันๆ อยากใกลัชิดกับแม่ เพราะแม่เป็นที่พึ่งพิงให้ปันอบอุ่นและสบายใจจึงหลับไป แล้วก็มีแค่ช่วงนี้แหละ พอปันๆ โตก็ไม่ได้ใกล้ชิดซบอกกันทุกคืนขนาดนี้อีกแล้ว
  • ปันจะแหวะนมบ่อยๆ คุณหมอแนะนำให้ทาน AIR-X น้ำ ทุกๆ 2 ชม. และคอยจับปันๆ เรอ และอาจให้แม่ปั๊มนมออกสัก 5 นาทีก่อนให้กินมื้อกลางคืน แต่ตอนกลางคืนจะเป็นปัญหาเพราะถ้าจับปันๆ เรอ ปันๆ ก็จะตื่นและจะดูดนมแม่อีก เลยจะไม่ได้นอนกันทั้งแม่ทั้งลูก เลยให้ปันๆ เรอบ่อยๆ ตอนที่รู้ว่ายังไม่หลับแน่ๆ แล้วพอใกล้ๆ จะได้เวลาหลับก็ปล่อยเลยตามเลย
  • ช่วงหลายวันแรก ปันๆ ไม่อึ จนกระทั่งวันที่ 20 มี.ค. (วันที่ 11 หลังคลอด) ปันๆ ถึงจะอึ คุณหมอใช้กลีเซอรีน สวนขี้เทาออกวันที่ 14 มี.ค. แต่ก็ยังไม่อึ ก็ไม่ต้องกังวลมาก เด๋วพร้อมปันๆ ก็อึเองเนอะ เมื่ออึแล้ว เป็นสีน้ำตาลเหลือง เพราะกินนมแม่
  • มือเท้าปันๆ เย็น เป็นเรื่องปกติ เพราะปลายประสาทยังพัฒนาไม่เต็มที่
  • คุณหมอเตือนไม่ให้ดูทีวีจนกว่าจะ 5 ขวบ หรือ 2 ขวบให้ดูได้น้อยๆ และพ่อแม่ต้องแนะนำ แต่ที่บ้านพ่อชอบเปิดทีวีไว้ให้มีเสียงไปงั้นๆ คงจะต้องฝึกนิสัยให้พ่อก็ละมั้ง
  • 1.5 เดือนจะเริ่มเอานมแม่ใส่ขวดให้ปันๆ กินจ้ะ เริ่มกินจาก 3 oz. ต่อมื้อ วันละ 1 มื้อ ที่เหลือแม่ให้นมเอง แม่เลยเริ่มปั๊มนมตั้งแต่ 1 เดือน ปั๊มหลังปันๆ ดูด 1 ชม. เช่น ปันๆ ดูดนมตอน 10 โมง เสร็จ 10.30 น. แม่ก็ปั๊มตอน 11.30 น. ปั๊มนาน 15 นาที (รู้สึกว่าเกลี้ยงเต้า)
  • ปริมาณนมที่ได้ช่วงนี้ประมาณ 2-3 oz. ต่อครั้ง (สองข้างรวมกันแล้ว) ตอนเช้าๆ จะได้มากกว่าตอนบ่าย

Monday, April 28, 2008

เดือนที่ 1-2



9 เม.ย. - Happy Birthday Pun-Pun at 1 month old :-)

พัฒนาการด้านร่างกาย

ปันเริ่มพลิกตัวตะแคงข้างได้ แม่เริ่มหัดดึงแขนให้ลุกนั่ง ซึ่งปันก็ยกศีรษะตั้งตรงกับแนวสันหลังได้แล้วตามตำราเรยย ชอบเอากำปั้นเข้าปาก และมองนู่นมองนี่ มองได้ไกลขึ้นเยอะเลยจ้ะ แม่พยายามจับคว่ำบ้างแต่ปันไม่ยักกะชอบแฮะ ร้องแฮ้ๆ เลย

พัฒนาการด้านภาษา

15 เม.ย. - พี่อุ๊กับคุณย่ายืนยันว่าจู่ๆ ปันก็ตะโกนก้องร้องคำว่า แม่!” (โอ้โห เว่อไปป่าวเนี่ย)

23 เม.ย. - พี่อุ๊กับคุณย่ายืนยันว่าจู่ๆ ปันก็ตะโกนก้องร้องคำว่า ปัน!” (โอ้โห เว่อไปอีกขั้น ลูกอิชั้นกองเชียร์เยอะแฮะ)

เท่าที่แม่ได้ยิน ปันร้อง อือๆ และ เอ้วๆๆ สงสัยจะชอบพี่ป้อมพี่โต๊ะ

พัฒนาการด้านสังคม

ปันชูหมัดทำท่าชกมวยได้ ตอนพี่อุ๊ชวนปันชกมวย ปันชวนชกมวยได้ด้วย โดยจะกำหมัดแล้วทำหน้ายียวนชวนชกสุดๆ บางทีเหมือนจะบ๊ายบายได้ จับมือได้ แต่บางทีก็ไม่ทำ แต่ปันจำเสียงพ่อแม่ได้แล้นแน่นอน


Friday, April 4, 2008

จากแม่ถึงปัน


ปันๆ ... แม่รักปันๆ นะ แม่จะพยายามเป็นแม่ของปันๆ ให้ดีที่สุด หยิบยื่นสิ่งที่ดีที่สุดให้ปันๆ เสมอ แม่โชคดีที่เกิดมามีอาโผ่ที่ทั้งรักและคอยดูแลแม่อย่างดีเสมอมา แม่จะทำให้ปันๆ รู้สึกถึงความอบอุ่นและโชดดีแบบนี้เหมือนกัน
ปันเป็นลูกคนแรกของแม่ แม่อาจจะยังไม่มีประสบการณ์เพียงพอ อาจทำอะไรพลาดพลั้งเพราะความไม่รู้ แต่เวลาแม่มองหน้าปันๆ แม่รู้ว่าปันๆ อภัยให้แม่เสมอ และยังคงยินดีที่จะเห็นหน้าแม่ เล่นกับแม่ ตลอดเวลา
ทุกๆ วันต่อจากนี้ จะเป็นทุกวันที่แม่ทำเพื่อลูกของแม่ และทุกๆ นาทีที่แม่อยู่กับปัน ณ ขณะนี้ที่เป็นช่วงเวลาเริ่มต้นของชีวิตของปัน แม่จะวางรากฐานของชีวิตน้อยๆ นี้ให้ดีที่สุด และจะคอยชื่้นชมชีวิตที่เติบใหญ่อย่างภาคภูมิในวันข้างหน้าจ้ะ
แน่นอน... พ่อเป็นคนสำคัญที่คอยช่วยแม่ และจะอยู่ข้างๆ เราเสมอจ้ะ
รักปันมาก ... จากแม่

Friday, March 21, 2008

เดือนที่ 0-1

พัฒนาการด้านร่างกาย

ปันทำ Moro Reflex บ่อยมากๆ โดยเฉพาะเวลาตกใจหรือร้องไห้ ปันๆ มักจะตกใจเวลาจะอาบน้ำ ปันตกใจแม่ก็ตกใจแฮะ เดือนนี้คอยังไม่แข็ง แต่ปันเริ่มขยับตัวไปมาเวลาที่อุ้ม และเวลาแม่อุ้มพาดบ่า ก็ชอบแอบหม่ำๆ เสื้อแม่ (อร่อยเหรอจ๊ะ) เวลาจับเรอก็หม่ำมือแม่ ตอนวางนอนหงายจะหันซ้ายหันขวาได้คล่องแล้ว เงยหน้าได้ ก้มหน้าได้ คว้าของก็ได้ และปันๆ ชอบให้คนอุ้ม แต่ต้องอุ้มอย่างมั่นคงนะ ม่ายงั้นจะร้องแฮ้ๆ บ้านแตกเลย เสียงร้องของปันๆ ตอนนี้เริ่ิมดังขึ้น ปันยิ้ม occasionally เวลายิ้มนี้นะ หล่อที่สุดเรยย ปันๆ แขนยาว ขายาว แระก็นิ้วยาว โตขึ้น แม่จะให้ train เป็นนักบาส NBA นะ เอ... แต่ปันๆ ชอบเตะๆๆๆๆ เป็นชีวิตจิตใจ จะชอบเล่นบาสหรือเปล่าน๊า

พัฒนาการด้านภาษา

ร้องอือๆ อาๆ แล้วก็ร้องไห้เสียงดัีง แฮ้ๆๆๆ มีน้ำตาไหลพรากๆ ด้วย หน้าแดงแป๊ดเลย

พัฒนาการด้านสังคม

ปันยิ้มแล้ว แต่ถึงแม้จะรู้ว่ายิ้มอย่างเป็นไปเอง ไม่ได้ตั้งใจยิ้มให้แม่ก็เหอะ พ่อกะแม่ก็แอบปลื้มมมมสุดๆ นั่นแหละ ปันชอบมองหน้าคนนั้นคนนี้ เวลาเข้ามาพูดด้วย จำหน้าแม่ได้ยังเอ่ย ตอนแม่ให้นมก็ำไซ้หาหัวนมได้เองแล้ว และมีท่างับขวับๆ ที่แม่เห็นแม่ก็ให้หมดใจเลยลูก

แบบแผนชีวิตประจำวัน

ปันยังกินนมทุกๆ 2-3 ชม. อึวันละหลายๆ ครั้ง แต่ว่านอนค่อนข้างน้อย นอนแ็ป็บเดียวก็ตื่นแล้ว อยากให้อุ้ม คุณหมอบอกว่าถ้าร้องให้อุ้ม ก็อุ้มปันๆ เลย ไม่ต้องกลัวติดมือ เพราะปันๆ ยังเล็กนิดเดียว ย่อมมีความสุขที่จะได้รับความอบอุ่น เอาไว้โตก่อนค่อยสอนก็ยังไม่สายเนอะ




แอบถ่ายตอนปันๆ หลับ ม่ายรู้ฝันถึงอะไรน๊า

Sunday, March 16, 2008

1st Week

วันที่ปันๆ กลับมาบ้าน เราเอาของขวัญที่ทุกคนให้มาโพสต์ถ่ายรูปกับปันๆ ในเตียง (เลียนแบบที่อากงปันทำให้พ่อช้าง) แล้วก็มีปฏิทินจีนวันเกิดที่คุณย่าหามาให้จ้ะ กองของขวัญใหญ่กว่าปัน 10 เท่าเห็นจะได้เนอะ

ช่วงแรกๆ นี้ ปันร้องไห้ แว้ๆ แว้ๆ เสียงเบ๊าเบา พ่อบอกว่าเรามีมารยาทดีมาก แล้วก็เป็นเด็กอารมณ์ดีไม่ค่อยงอแงเลย จะร้องเฉพาะตอนที่จะกินนม สัปดาห์แรกนี้ขอบอกว่าแม่เหนื่อยมาาากก เพราะแทบไม่ได้นอน เนื่องจากต้องให้นมทุกๆ 2-3 ชม. ทั้งกลางวันกลางคืน ปันๆ ชอบดูดนมแม่นาาานมาก เป็น ชม. เลย จนบางทีแม่นับตามตารางไม่ถูก พ่อลางานมาช่วยเลี้ยงลูก โดยเฉพาะช่วยอาบน้ำให้ ซึ่งขณะนี้ เป็นหน้าที่ของพ่ออย่างถาวรไปซะแล้น

ความรู้สีกและอารมณ์หลากหลายประดังประเดเข้ามา เครียดที่หนึ่ง ปันได้นมพอหรือเปล่าหนา และจะโกรธมากถ้าใครพูดว่าปันกินนมไม่พอ หรือปันหิวแล้วไม่มีนมกิน เครียดที่สองปันจะดูดนมนานขนาดนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ไม่เห็นใช่ข้างละ 15 นาทีอย่างที่ตำราบอก เครียดที่สาม นมมันคัดๆ เปื่อยๆ ยังไงอยู่ ไม่สบายเนื้อสบายตัว เครียดที่สี่ ยังเจ็บแผลผ่าตัดอยู่นะไม่กล้านั่งกับพื้นกลัวลุกไม่ได้ (นี่คือเหตุผลที่ยังไม่อาบน้ำให้ปันๆ เอง) มองซ้ายมองขวา หาเรื่องพ่อตลอด แต่พ่อใจเย้นเย็น เข้าอกเข้าใจสุดๆ น่ารักที่ซู้ด คอยให้กำลังใจตลอดเลย

หลังสองวันกลับไปหาหมอสุธีราพร้อมคำถามเต็มหน้ากระดาษ หมอคงกะไว้แล้ว ไปถึงเลยอธิบายๆๆๆ ซะแม่อึ้ง process ข้อมูลเกือบไม่ทัน แต่ตอบคำถามหลักๆ ที่แม่มีเกือบหมด เหลือแต่จิ๊บๆ จ้อยๆ ที่ชอบคือเรื่องให้สังเกตพุงลูก ถ้าพุงยุบ คือเปิดพุงแล้วเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสแปลว่านมหมดท้อง หิวแล้วแม่ แต่ถ้าเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูแปลว่ายังอิ่มอยู่ฮัีบ แล้วยังสอนวิธีอุ้มลูกมือเดียวพาดบ่ากับท่าถอนสายบัว ซึ่งโดนใจพ่อมาากก

ปลายๆ อาทิตย์ พ่อเริ่มแผนปลีกตัว โดยไม่ตื่นมาดูลูกตอนดึกแล้ว อ้างว่าเพื่อให้แม่ปรับตัว เพราะในที่สุดแม่ต้องเป็นคนดูลูกตอนกลางคืน ซึ่งเมื่อเริ่มแผนแล้วก็กลายเป็นปฏิบัติการถาวรไปซะเรยย

แม่เริ่มอาบน้ำให้ลูกแล้วด้วย รู้สึกพ่อจะถ่าย vdo ไว้ สรุปว่าสัปดาห์แรกแผน delegate งานของพ่อเสร็จสมบูรณ์ทุกประการฮ่ะ


Thursday, March 13, 2008

วันแรกๆ ที่ รพ.

9-12 มี.ค. 51

4 วันที่รพ.ผ่านไปไวไม่รู้เรื่อง แม่จำได้ว่าพอคลอดปันๆ แล้ว พยาบาลให้แม่สังเกตอาการประมาณ ชม. นึงจึงพากลับห้อง ไปถึงมีญาติๆ เต็มไปหมด แล้วสักพักป้าเมย์ก็พาปันๆ มาหาแม่ ปันๆ ห่อผ้ามาตัวแด๊งแดง แล้วก็ตัวเล็กกาติ๊ดเดียวเองลูก ป้าเมย์ให้มาดูดนม แม่ก็อุ้ยๆ อ้ายๆ ยังรู้สึิกตัวหนักอยู่เลย แต่ยังไม่รู้สึิกเจ็บอะไร ปันๆ ดูดนมท่านอน ตั้งใจดูดมากเรยย ทำให้แม่มีกำลังใจขึ้นมากกับการให้นมแม่ให้สำเร็จ

ตลอดที่อยู่ รพ. ทุกอย่างค่อนข้างเป็นตามตาราง ปันๆ มาให้นมทุกๆ 2-3 ชม. ทั้งกลางวันกลางคืน แม่แทบไม่ได้นอนเลย เนื้อย เหนื่อย แต่ก็ทนจ้ะ วันที่ 2-3 เป็นวันที่ความเครียดเริ่มพุ่งขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเริ่มเจ็บแผล แม่ซัดยาแก้ปวดตลอดเวลา ตามคำแนะนำของป้านีย์ คือไม่ต้องรอให้ปวด พอใกล้ถึงเวลาที่พยาบาลบอกว่าจะปวด ก็กินยาล่วงหน้าไปเลย ช่วยได้มาก โดยเฉพาะบรรเทาอาการปอดแหกถาวรของแม่ ฮ่าฮ่า พ่อเข้าใจดี ก็หนับหนุนเต็มที่เรยย

ความเครียดที่สอง ครือ ปันๆ ดูดนมไม่รู้ได้นมหรือเปล่า เพราะดูลูกเริ่มหงุดหงิด เหมือนกินนมไม่ได้ดั่งใจ แล้วบางทีก็หลับไปไม่ดูดซะงั้น ก็กรั๊วกรัววว่าปันๆ จะไม่ได้นม ตามฟอร์มแม่ก็เริ่มบอกพ่อว่าให้ตั้ง cutoff time ไว้นะ ถ้าถึงเวลาแล้วยังไม่มีน้ำนมอีก ก็จะเตรียมนมวัวเลย (ใจเสาะจริงๆ เรา) แต่พ่อเป็นแม่ทัพเอก บอกให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบเปลี่ยนกลยุทธ์ ยังไม่ถึงเวลา ดีนะคะ ที่สามีอิฉันเป็นผู้หนักแน่นแบบนี้ ไม่ง้าน ปันเอ๋ย คงไม่ได้ซบอกแม่อยู่อย่างนี้หรอกฮ้า

ความเครียดที่สาม ไม่กล้าบอกใครหรอกตอนนั้น ครือว่า อิช้านปอดแหกอีกไม่กล้าอุ้มลูก ก็ so delicate ซะขนาดน้าน ตัวเล็กกะจิ๊ดเดียวเอง คอก็ง่อนแง่น กลัวทำตก กลัวเจ็บ กลัวไปซะหมด (บอกแล้วว่าปอดแม่ไม่ค่อยแข็งแรง) แต่ก็อีก พ่อช่วยเรียกความมั่นใจกลับมาเกินร้อย ก็ดูๆ ไปแล้ว เฮียช้างแกอุ้มได้ ทำไมอั๊วจาอุ้มม่ายล่ายว๊า ประมาณวันที่สาม แม่ก็เรยฮึดสู้ อุ้มแล้วอุ้มอีกเลยวุ้ย

พี่อุ๊มาอยู่กับเราด้วย สร้างความคุ้นเคยกับปันๆ แระก็ทะมัดทะแมงใช้ได้ๆ

วันที่สองที่อยู่ รพ. เค้าให้ไปฝึกอาบน้ำลูก ฮี่ฮี่ ก็เล่นนัด 8 โมงเช้า มีหรือจะตื่นทัน ^o^! เอาน่า วันแรกปรับตัวๆ จนวันที่สามถึงได้ไปอาบ แต่ก็ยังไม่ได้อาบจริงหรอก ไปถ่าย VDO ที่พี่พยาบาลอาบให้ก่อน จนวันที่สี่สิ ถึงได้อาบเอง แต่ใครจะหัดอาบให้ร่า ถ้าไม่ใช่ พ่อช้าง งัยจ๊ะ มีพ่อนี่ดีนะ เอาไว้เป็นทัพหน้า จนกลับบ้านพ่อก็ยังอาบให้อยู่อีกตั้งหลายวันแน่ะ

Up รูปมาให้ดูว่ามีใครมาเยี่ยมปันๆ บ้าง นี่เพียงแค่ส่วนนึงนะลูก ที่สงกะสัยครือแม่จำได้ว่าอี๊เจี๊ยบกับกู๋จูล่งมา 2 รอบนิ แต่ไม่ยักกะมีซักรูปเรยย เอาเป็นว่าไม่มีรูปถ่ายมายัน แต่อยู่ในฟามทรงจำป๋มระกันน๊า แม่อ้วนๆ อายคนจังเยยอ่า พ่อบอกไม่ต้องคิดมาก เพราะเค้ามาเยี่ยมปันๆ กัน (ประมาณว่าอย่าสำมะคันตัวผิด) ทุกคนชมจังว่าปันๆ ผมเยอะมาก อันนี้สุดแสนจะภูมิใจจัง สงสัยปันๆ จะเหมียนพ่อ แต่ย่อมหล่อกว่่าเป็นทำมะดา

Sunday, March 9, 2008

วันรักแรกพบ : : love at first sight

Daddy's Tale

9 มี.ค. 51 - พ่อกับแม่มาเตรียมตัวที่ รพ. ตั้งแต่ 8:30 น. มาถึง รพ. ได้ห้องที่ชั้น 6 เป็นห้องใหญ่มาก แต่ว่าดูทึบๆ พ่อเลยขอเปลี่ยนเป็นห้องชั้น 5 ใกล้ๆ เนอสเซอรี่ จะได้มาหาลูกง่ายๆ แต่ห้องในโซน A (ใกล้เนอสเซอรี่) เต็ม เลยต้องไปอยู่โซน B ซึ่งไกลไปนิด ตอนประมาณ 10:30 น. พยาบาลมาเตรียมตัวคุณแม่ ให้สวน ให้น้ำเกลือ ตอน 11:20 น. เค้าก็พาแม่ไปที่ห้องผ่าตัด คุณหมอบล็อกหลังแม่ แล้วก็เริ่มผ่า พ่อแม่และหมอทุกคนลุ้นกันสุดๆ เพราะหัวลูกค่อนข้างจะใหญ่มาก ตอนคลอดออกมานะ แม่ร้องไห้ดีใจใหญ่เลย พ่อก็ยิ้มไม่ยอมหุบ จนโดนป้าๆ อาๆ แซวว่าเห่อลูกกันใหญ่ พอเกิดเค้าก็พาปันไปไว้ในตู้ปรับอุณหภูมิ 2-3 ชม. ก่อนจะมาให้ดื่มนมแม่ครั้งแรก ตอนที่ปันปรับอุณหภูมิ แม่เค้าก็ไปอยู่ในห้องสังเกตอาการ กว่าจะได้เจอกับลูกก็ราวๆ 16:00 น. แม่ดีใจมากๆ ญาติๆ อยู่กันเต็มห้องเลย มีย่าสิน อาโผ่ ป้านีย์ ลุงเสก พี่ก้อง ป้าเกด อากบ ลุงแบงค์ ป้าเจนนี่ พี่แมนต้า ป้าเจี๊ยบ ลุงจูล่ง ทุกคนบอกว่าปันน่ารัก ตัวใหญ่ แล้วก็หน้าเหมือนกับ พ่อ-แม่ผสมกันเลย ตอนดึกๆ ห้องที่โซน A ว่าง เลยย้ายกันมาอยู่ที่ห้อง เป็นห้อง Ambassador เหมือนกับที่โซน B แต่ใกล้กับเนอสเซอรี่มากๆ พ่อ-แม่จะได้ไปหาปันบ่อยๆ

10 มี.ค. 51 - ลูกมาทานน้ำนมตอนตี 1 กับตี 5 ดูดนมแม่ครั้งละ 1 ชม. สลับข้างละครึ่งชม. ตอนเช้าพยาบาลพาลูกมาด้วยทรงผมที่เท่มาก


Mommy's Tale

9 มี.ค. 51 - ปันค๊าบ วันน้ีเป็นวันที่แม่ตื่นเต้นมากเลยลูก นอกจากเป็นเพราะวันที่เรา พ่อ-แม่-ลูก จะได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกแล้ว ครั้งนี้จะเป็นการเข้า รพ. ครั้งแรกของแม่ที่ต้องมาผ่าตัดและนอนรพ. คุณหมอให้แม่งดน้ำงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 8 แม่พยายามนอนให้หลับเพราะกลัวว่าถ้าอดนอนแล้วมาผ่าตัดจะทำให้เพลียมาก ตอนเช้าเรามาที่ รพ. แม่กับคุณย่าแวะไหว้พระภูมิเจ้าที่ของ รพ. ขอให้ทั้งปันและแม่ปลอดภัย ให้ปันมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นเด็กที่น่ารัก เป็นบุตรที่ดี พอไป check-in ที่แผนกสูติฯ ก็มีพยาบาลพาไปที่ห้องพักชั้น 6 ห้องใหญ่มากแต่แม่ว่ามันดูทึมๆ แล้วก็ไกลจากเนอสเซอรี่มากๆ เลย พ่อ-แม่เลยขอย้ายมาอยู่ที่ชั้น 5 แทน ระหว่างรอเวลาที่จะผ่าตัด แม่ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว พูดอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง พยายามไม่คิดอะไรมาก พยาบาลเข้ามาสวนให้ แม่เข้าห้องน้ำแล้วออกมาให้น้ำเกลือ รู้สึกเจ็บเล็กน้อยตอนเค้าฉีดต่อสายน้ำเกลือให้ที่หลังมือ หลังจากนั้นแม่ก็นอนรอ มีพี่พยาบาลจากห้องคลอดเข้ามาอธิบายขั้นตอนให้ฟัง แต่แม่ฟังไม่รู้เรื่องเท่าไหร่แล้วล่ะ ใกล้เวลา เค้ามาเข็นเตียงแม่ลงไป ใจเต้นตึกตักๆ พ่อลงไปด้วย อยู่กับแม่ตลอด ทำให้สบายใจขึ้นมาก เค้าพาแม่ไปรอหน้าห้องผ่าตัด ปรากฏว่าวันนี้มีคิวผ่าตัดหลาย case แม่ต้องนอนรออยู่นานหลายนาที ยิ่งรอนานยิ่งตื่นเต้นบอกไม่ถูก และแล้วก็ถึงคิวจนได้ เค้าเข็นแม่เข้าไป เจอกับหมอที่บล็อกหลังคนแรก หมอใจดี แนะนำขั้นตอน แล้วแม่ก็ถามเรื่องผ่าไส้ติ่งกับขลิบ ซึ่งพ่อเค้าก็คงถามหมอบุญชัยอีกครั้งนึง ตอนที่บล็อกหลังพ่อยังอยู่ข้างนอก ยังเข้ามาไม่ได้ แม่อยู่คนเดียว ก็ต้องใจสู้ หมอให้ทำอะไรแม่ร่วมมืออย่างดีมาก จำได้ว่าหมอบอกให้งอตัวเยอะๆ มากๆ เพราะต้องฉีดยาเข้าระหว่างข้อต่อของกระดูกสันหลัง แม่งอสุดตัวเท่าทีพุงอ้วนๆ ของแม่จะทนได้ พอหมอฉีดปุ๊บแม่กลับไม่รู้สึกเจ็บเลย แล้วเค้าก็รีบจับแม่นอนหงาย แม่เริ่มรู้สึกชา จากขาขึ้นมาถึงหน้าอก หลังจากนั้นแม่ไม่เจ็บอีกเลยตลอดการผ่าตัดจ้ะ สักพัก หมอบุญชัยกับหมอผู้ช่วยเข้ามาทายาเย็นๆ ที่ท้อง แล้วพ่อก็มา สักพักหมอบอกว่าจะรู้สึกมือหมอกดที่ท้อง แม่รู้สึกโดนกดเหมือนหมอพยายามดันปันๆ ออกมา เสียงพ่อร้องว่า "เห็นแล้วๆ ออกมาแล้วๆ" แล้วหมอก็บอกว่า "หัวโตแฮะ" จู่ๆ ก็มีเสียงดัง "แว้" พ่อบอกว่า "ออกมาแล้วๆ" แม่น้ำตาร่วงกราวตอนได้ยินเสียงปันๆ ครั้งแรก แล้วหมอสุธีราก็มารับปันๆ ไปทำความสะอาด แม่เห็นแวบๆ เลยขอพยาบาลใส่แว่นตา แล้วหมอก็อุ้มปันๆ มาใกล้ๆ แม่ แม่ได้เอาแก้มแนบแก้มปันๆ ด้วย ปันยังเปียกๆ อยู่เลย ตัวเล็กนิดเดียว สีเทาๆ แต่ก็น่ารักที่สุดในโลกเลย รักปันมากเลยจ้ะ เราถ่ายรูปกันครั้งแรก พ่อ-แม่-ลูก :D